BODY JET - Body Contouring / Tightening
Key benefits:
Body jet สลายไขมัน กระชับสัดส่วน
ปรึกษา
แพทย์ฟรี
ระยะเวลา(นาที):
60 - 90
ระยะพักฟื้น:
1-2 วัน
ดูดไขมัน
Body Jet
หัตถการ ลด สลาย ฆ่าเซลล์ไขมัน มาเเรง!!!
วิธีการดูดไขมันจะใช้เทคโนโลยีของเครื่องมือแพทย์มาเป็นเกณฑ์ในการแบ่งแยก ได้แก่
- การดูดไขมันแบบ VASER
การดูดไขมันด้วยการใช้คลื่นอัลตราซาวด์สลายไขมัน ก่อนจะดูดออกมา
เหมาะสำหรับ
ผู้ที่ต้องการดูดไขมันปริมาณมาก
แผลค่อนข้างเล็ก - การดูดไขมันด้วยเครื่อง Body Tite
การดูดไขมันด้วยการคลื่นวิทยุร่วมกับคลื่นความร้อนเข้าไปละลายไขมันให้แตกตัว
ได้ผลทั้งกำจัดไขมันและการยกกระชับผิว เหมาะสำหรับผู้ที่พึ่งคลอด
ผู้ที่มีผิวหนัง
หย่อนคล้อย หรือผู้ที่มีไขมันสะสม
แผลไม่ใหญ่ และไม่ค่อยบวมช้ำเยอะ - การดูดไขมันด้วยตัวเครื่องบอดี้ เจ็ท (Body jet)
การดูดไขมันด้วยการใช้พลังงานน้ำเข้าไปแยกเซลล์ไขมันออกจากเนื้อเยื่อผิวหนัง
ก่อนดูดไขมันออกมา เหมาะสำหรับคนที่ต้องการนำไขมันไปเติมตามส่วนต่างๆ ของร่างกาย
เช่น หน้าอก สะโพก ร่องแก้ม
ร่องน้ำหมาก แผลไม่ใหญ่มาก แต่บวมช้ำเยอะว่าเทคนิคอื่น - การดูดไขมันด้วยเครื่อง PAL
การดูดไขมันด้วยการใช้การสั่นสะเทือน สามารถแยกชั้นไขมันที่สะสมมานาน
จนเป็นพังผืดได้ดี
และสลายไขมันได้ในปริมาณมาก
โดยเลือกใช้จากความชำนาญและวิจารณญาณของแพทย์ผู้รักษา
ว่าเทคโนโลยีใดดีที่สุดในปัจจุบันรวมถึง
มีความสอดคล้องกับเทคนิค
การรักษาที่เป็น
เอกลักษณ์เฉพาะของแพทย์ด้วย
ดูดไขมัน
Body Jet
มาจาก
Water + Jet Engine
ดูดไขมันใครว่าเป็นแค่ส่วนเกิน ในปัจจุบันการมีไขมันส่วนเกิน
อาจจะทำให้สัดส่วนต่างๆ ของ
ร่างกายล้วนทำให้รูปร่างคุณดูไม่สมส่วน
แม้จะมีวิธีการกำจัด
ไขมันมากมายในแต่ละ
สถาบันความงาม
แต่จะมี
วิธีไหนที่นอกจากจะได้รูปร่างที่สมบูรณ์แบบ
แล้วยังเอาไขมันส่วนเกินมาใช้ประโยชน์ได้อีก
การดูดไขมันด้วยเครื่อง
Body Jet
ดีกว่าการดูดด้วยวิธีอื่นอย่างไร?
- ดูดไขมันด้วยเครื่อง Body jet
ที่มีการพ่นน้ำเพื่อแยกชั้นไขมันออกจากเนื้อเยื่อที่เกี่ยวพันเส้นประสาทและเส้นเลือด
ขณะดูดไขมัน ดังนั้นจะไม่มีผลกระทบต่อหลอดเลือด เส้นประสาท หรือเนื้อเยื่อบริเวณรอบๆ
ทำให้ไม่เกิดความบอบช้ำของผิวหรืออาการบวม และเสียเลือดในปริมาณน้อยมาก - ดูดไขมันด้วยเครื่อง Body jet
เป็นวิธีการดูดไขมันในรูปแบบระบบปิด ที่ช่วยให้ไขมันที่ดูดออกมาทั้งหมด
ไม่กระทบกับอากาศภายนอกเหมือนเครื่องอื่นๆ จึงไม่มีภาวะที่จะเสี่ยงต่อการติดเชื้อ
และลดอัตราการเกิดอันตรายอื่นๆ มากไปกว่านั้นไขมันที่ได้มายังเป็นไขมันที่มีประสิทธิภาพ
ในการนำไปเติมส่วนอื่นๆ - เพราะฉะนั้นการนำไขมันไปใช้นั้น แทบจะไม่มีการสลายตัวเลย
- ดูดไขมันด้วยเครื่อง Body jet
มีการพ่นน้ำอย่างอ่อนโยนและนุ่มนวล จะทำให้ง่ายในการดูดไขมัน
จึงใช้ระยะเวลาในการดูดไขมันที่สั้นลง ทำให้เกิดการบอบช้ำน้อย
ส่วนใหญ่ผู้ที่รับบริการ ดูดไขมัน ด้วยเครื่อง Body jet จะใช้เวลาในการพักฟื้นน้อยมาก
บางรายสามารถกลับไปใช้ชีวิตประจำวันและ
ทำกิจกรรมต่างๆ ได้ตามปกติในทันที
เป็นเทคโนโลยีที่ใช้
พลังน้ำในการช่วยกำจัดเซลล์ไขมัน
หรือดูดไขมันด้วยเทคนิคการฉีดพ่นน้ำเป็นรูปแบบพัด
เพื่อแยกชั้นไขมันออกจาก
เนื้อเยื่อเกี่ยวพันเส้นประสาท
และเส้นเลือดลดอาการช้ำ ให้ได้รับผลกระทบที่น้อยที่สุด
มีความปลอดภัยสูงและสามารถนำเซลล์ไขมันมาปลูกถ่าย
เพื่อเติมเต็มในส่วนต่างๆ
ของร่างกาย
อย่างตัว Body jet
การฉีดพ่นน้ำเข้าไปถนอม
และรักษา กับเก็บ เซลล์ไขมันอย่างอ่อนโยน
แม่นยำและ
มีประสิทธิภาพสูง ช่วยในการแยกไขมัน
ให้ออกจากเนื้อเยื่อส่วนต่างๆ ไม่ทำให้เนื้อเยื่อผิวหนัง
ได้รับความบอบช้ำ ทั้งยังสามารถเอาไขมันออกได้มาก
มีความเจ็บน้อย สามารถฟื้นตัวเร็วและยังไม่ทำให้
เกิดพังผืด ช่วยให้ผิวเรียบเนียน อีกทั้งไขมัน
ที่ถูกแยกออกจากเนื้อเยื่อจะเป็นแหล่งสำคัญของสเต็มเซลล์คุณภาพสูง พลังน้ำที่อ่อนโยนนั้นทำให้เซลล์ไขมัน
ยังคงมีชีวิต และ
ยังคงเต็มไปด้วยสเต็มเซลล์ที่มีคุณค่า
อย่างมหาศาลจึงสามารถ
นำไปใช้ประโยชน์ได้มากมาย
ไขมันที่ดูดด้วย
Body Jet
ใช้ทำอะไรได้บ้าง?
- ดูดไขมันด้วยเครื่อง Body jet
- ไขมันที่ถูกดูดออกยังคงมีความสมบูรณ์แบบพร้อม
นำไปใช้ประโยชน์ในกระบวนการ Fat - เติมเต็มหน้าอกให้อวบอิ่มแบบธรรมชาติ
Cal Breast Augmentation - หน้าเด็กย้อนวัยด้วยการฉีดเสต็มเซลล์ไขมัน Fat Graft
ข้อดีของเครื่องดูดไขมัน
Body Jet
- อ่อนโยนสูง นุ่มนวลมาก จึงเสียเลือดน้อย
- มีอาการบาดเจ็บระบมช้ำน้อย
จึงพักฟื้นไม่นาน - ระหว่างดูดไขมันด้วยยาชา จะรู้สึกเจ็บน้อย
หรือไม่เจ็บเลย - ดูดไขมันได้ทุกสัดส่วน และดูดไขมันได้ในปริมาณมาก
- มีแผลขนาดเล็กเพียงจุดละ 3-4 มิลลิเมตรเท่านั้น
- ไร้ปัญหาผิวไหม้ ผิวเป็นคลื่นบุ๋ม
สัดส่วนผิดรูป - สามารถลดส่วนเกินพร้อมเติมส่วนขาด
ในครั้งเดียว - ดูดไขมันวันนี้ พรุ่งนี้ใช้ชีวิตประจำวันได้ตามปกติ
การดูดไขมัน
Body Jet
เหมาะกับใคร
- ผู้ที่ต้องการเติมจุดบริเวณหน้าอกบริเวณสะโพกให้มีขนาดใหญ่ขึ้น
และให้ดูเป็นธรรมชาติ วิธีนี้จะเป็นธรรมชาติ ดูไม่แข็ง
เพราะไม่ต้องใช้เป็นซิลิโคนใช้เป็นไขมันของตนเองแทน - ผู้ที่ต้องการเติมหน้าอก เติมสะโพก โดยที่
ไม่ต้องการเจ็บ
ด้วยวิธีนี้ ระดับความเจ็บ
ที่สอบถามจากคนไข้ คือ 2/10
เพราะไม่ต้องผ่าตัด เพียงดูดไขมันด้วยเครื่อง Body jet
และฉีดกลับเข้าไปในส่วนที่เราต้องการ - ผู้ที่ต้องการเติมหน้าอก เติมสะโพก
และไม่มีเวลาในการพักฟื้น
ด้วยวิธีการนี้
โดยส่วนมากสามารถกลับไปใช้ชีวิตประจำวัน
และทำกิจกรรมต่างๆ ได้ตามปกติในทันที - ผู้ที่ต้องการเติมเต็มริ้วรอยบนใบหน้า
ปรับแก้ไขจุดที่บกพร่อง
ผลลัพธ์ที่ดีและอยู่ได้นานกว่าการฉีดฟิลเลอร์ ด้วยวิธี
ดูดไขมันด้วยเครื่อง Body jet การสลายตัวของ
ไขมัน
แทบจะไม่มีเลย เนื่องจากไขมันที่ได้มาเป็นไขมันที่มีคุณภาพนั้นเอง
แนะนำตำแหน่งในการดูดไขมัน
Body Jet
- ดูดไขมันหน้าท้องบนและล่าง
ลดความนูนยื่นของหน้าท้องลง
ทำให้หน้าท้อง
แบนราบกว่าเดิม - ดูดไขมันเอวเอส – ปีกหลัง
เหลาช่วงเอวให้คิดสวยมี S Curve
ทำให้สัดส่วนดูเพรียวมากขึ้น - ดูดไขมันต้นแขน
แก้ปัญหาต้นแขนใหญ่ ตัวบึก ตัวตัน ตัวหนา
ทำให้แขนเรียวกระชับสวย - ดูดไขมันต้นขาด้านใน
จัดการปัญหาต้นขาเบียด ใส่อะไรก็อึดอัด
ลดส่วนเกินระหว่างขา
- ดูดไขมันต้นขาด้านนอก
กำจัดไขมันบริเวณต้นขาด้านนอกและ
ปีกสะโพก
เพื่อลดปัญหาขาบาน - ดูดไขมันหัวเข่า
ทำให้หัวเข่ามีขนาดเล็กลงรับกับต้นขาเรียวๆ
ทำให้ขาไล่ระดับความเรียวสวยงาม - ดูดไขมันเหนียง
ลดคางสองชั้น จัดการเหนียงใต้คาง
ทำให้บริเวณใบหน้าช่วงล่างเรียวสวยมากขึ้น
การเตรียมตัวก่อนดูดไขมัน
Body Jet
- สุขภาพแข็งแรง ผู้ที่เข้ารับการดูดไขมัน
จะต้องมีสุขภาพแข็งแรง
ไม่มีโรคประจำตัวร้ายแรง - มีน้ำหนักตัวที่คงที่ การดูดไขมันเหมาะที่สุดกับท่านที่น้ำหนักตัวไม่มากเกินไป
และน้ำหนักคงที่ระยะหนึ่งแล้ว เพราะการดูดไขมันไม่ใช่วิธีการลดน้ำหนัก
แต่เป็นการปรับสัดส่วน
เฉพาะจุด ดังนั้นในท่านที่น้ำหนักตัวมากเกินไป
แพทย์อาจจะแนะนำ
การลดน้ำหนักก่อนจะทำการดูดไขมัน - มีไขมันดื้อ ไม่ตอบสนองการลดน้ำหนัก
การดูดไขมันเหมาะกับผู้ที่มีไขมันส่วนเกิน
เฉพาะจุด
ที่การลดน้ำหนัก และ
ออกกำลังกาย ก็ไม่ช่วยให้ไขมันลดลง
ซึ่งมักพบมากบริเวณหน้าท้อง
ต้นแขน ต้นขา สะโพก และเหนียง - ทำให้ผิวหนังให้ยืดหยุ่นเพื่อเตรียมพร้อมกับการทำผิวหนังในจุดที่จะทำการดูดไขมัน
ควรมีความยืดหยุ่นที่ดี จะสามารถกระชับได้ดีหลังจากการดูดไขมันออกไป
ดังนั้นในท่านที่ผิวหนังเสียความยืดหยุ่นไปแล้วนั้น แพทย์ก็อาจจะต้องพิจารณา
ทำการรักษาอื่นๆ ร่วมเช่น การตัดหนังหน้าท้อง หรือ การใช้คลื่น thermage เป็นต้น - มีความเข้าใจการดูดไขมันตามความเป็นจริง ท่านที่เข้ารับการดูดไขมัน
ควรเข้าใจว่าผลลัพธ์ที่จะได้จากการดูดไขมันเป็นอย่างไรตามลักษณะร่างกายของแต่ละท่าน
ไม่คาดหวังเกินความเป็นจริง เพราะรูปร่างของแต่ละท่านมีความแตกต่างกันไป
ผลการรักษาจึงต้องปรึกษากับแพทย์ก่อนเพื่อได้เข้าใจผลลัพธ์ที่เป็นไปได้
ขั้นตอนการดูดไขมัน
Body Jet
- การให้คำปรึกษา
ก่อนทำหัตถการจะต้องปรึกษากับศัลยแพทย์ เพื่อประเมินสุขภาพโดยรวม
หารือเกี่ยวกับเป้าหมายในการดูดไขมัน และพิจารณาตำแหน่งในการดูดไขมัน
เครื่องดูดไขมันที่จะต้องใช้ เป็นต้น - การดมยาสลบ
การดูดไขมันสามารถทำได้ทั้งแบบยาชาและยาสลบขึ้นอยู่กับตำแหน่งที่ดูดไขมัน
ปริมาณไขมันที่ต้องดูด และความสะดวกใจของคนไข้ โดยขั้นตอนนี้จะอยู่ใน
การดูแลของวิสัญญีแพทย์ - การเปิดแผล
แพทย์จะเปิดแผลขนาดเล็ก บริเวณในตำแหน่งที่ยากจะสังเกต เช่น
ใต้ของกางเกงใน
ใต้ราวหน้าอก - การใส่ Tumescent
แพทย์จะใส่สารน้ำที่ประกอบไปด้วยยาชา
อะดรีนาลีน
เพื่อลดการบาดเจ็บของเส้นเลือด - การสลายไขมัน
มีการสอด cannula เข้าไปใต้ชั้นผิวหนังเพื่อทำการสลายไขมัน
ศัลยแพทย์จะขยับ cannula ไปมาเพื่อสลายไขมันที่สะสมอยู่ใต้ผิวหนัง - การดูดไขมัน
ไขมันที่สลายแล้วจะถูกดูดออกมา - การปิดแผล
เมื่อเอาไขมันออกตามปริมาณที่ต้องการแล้ว แพทย์จะปิดแผลด้วยการเย็บแผล - การพักฟื้นหลังดูดไขมัน
ผู้ป่วยอาจมีอาการบวม ช้ำ และไม่สบายตัวหลังทำหัตถการ
และต้องสวมชุดกระชับ
หลังดูดไขมันเพื่อช่วยลดอาการบวม
รวมทั้งต้องมาติดตามอาการและทำ After Care ตามนัด
การดูแลตัวเองหลังดูดไขมัน
Body Jet
- หลีกเลี่ยงไม่ให้แผลโดนน้ำในช่วงแรกประมาณ 1 สัปดาห์หรือจนแผลแห้ง
- หลีกเลี่ยงอาหารจำพวกของหมักดอง
เพราะอาจจะทำให้เกิดการติดเชื้อหรืออักเสบได้ - หลีกเลี่ยงอาหารทะเล หรือไข่ เพราะในอาหารทะเลและไข่มีปริมาณโปรตีนสูง
อาจจะทำให้ผิวสร้างกระบวนการรักษาแผลผิดปรกติจนเป็นแผลคีลอยด์ได้ - ไม่ยกของหนัก หรือทำอะไรที่เป็นการ
ออกกำลังมากกว่าปรกติ
เพราะจะทำให้แผลช้ำ - ใส่ชุด Support รัด ในตำแหน่งที่ได้รับการดูดไขมัน ตลอดเวลา
ยกเว้นเวลาอาบน้ำ เป็นเวลาอย่างน้อย 2 เดือน - งดสูบบุหรี่และแอลกอฮอลล์ เพราะส่งผลให้แผลหายช้ากว่าปกติ
ดูดไขมัน
Body Jet
อันตรายไหม?
ถือว่าเกิดมาเพื่อคนไข้ที่มีความกังวลเรื่องของผลข้างเคียง
และกลัวการใช้เครื่องดูดไขมันชนิดที่ก่อให้เกิดความร้อนอย่างมากเลย
เพื่อป้องกันการบาดเจ็บของเนื้อเยื่อและ
กล้ามเนื้อ ใครที่คิดว่าดูดไขมันแล้วเข็มจะแทงถึงไส้
เรื่องนี้ถือว่าพูดเกินจริงไปอย่างมาก
ไม่เป็นความจริงอย่างแน่นอน
เมื่อตัวเครื่องทำงาน
น้ำที่เป็นพลังงานหลักจะทำหน้าที่สลายเซลล์ไขมันที่จับตัวกันเป็นพวงองุ่น
โดยค่อยๆ
แยกออกอย่างอ่อนโยน ความอันตรายในเรื่องผิวหนังไหม้หลังดูดไขมันคือตัดทิ้งไปได้
หากเลือกดูดไขมันด้วย
เครื่อง Body jet
ก็ต่อเมื่อ
มีแพทย์ วิสัญญีแพทย์ และพยาบาลอยู่ดูแลตลอดการผ่าตัด
รวมทั้งห้องผ่าตัดจะต้องมีระบบ Positive Pressureเพื่อให้อากาศในห้องผ่าตัดปลอดเชื้อที่สุด
การดูดไขมันด้วย Body jet
จึงจะปลอดภัย ไร้กังวล และได้ผลลัพธ์ที่สวยงาม
ข้อควรรู้ก่อนตัดสินใจดูดไขมัน
Body Jet
การดูดไขมันเป็นการรักษาที่เห็นผลได้ถาวร
เพราะ 3 ปัจจัยนี้
- เป็นการกำจัดตัวเซลล์ไขมันอย่างถาวร
ในการดูดไขมันจะทำลายเซลล์ไขมัน ซึ่งนั่นเป็นดั่งโกดังที่เก็บไขมันทั้งหมดออกไปเลย
ต่างจากไขมันที่ลดโดย
วิธีอื่น
ซึ่งจะแค่ลดขนาดเซลล์ลงเพียงเท่านั้น เมื่อน้ำหนักมากขึ้นเจ้าไขมันก็
จะกลับมาสะสมในร่างกายใหม่
แต่บริเวณจุดที่ทำการดูดเซลล์ไขมัน
ออกไปแล้วนั้น จะไม่มีการสร้างเซลล์ขึ้นมาใหม่
จึงทำให้ได้ผลอย่างถาวร
- เมื่อผ่านช่วงเด็กหรือวัยรุ่นไปแล้ว ร่างกายจะไม่มีการสร้างเซลล์ไขมัน
ขึ้นใหม่
เพราะ
โดยส่วนมากเซลล์ไขมันจะไม่มีการสร้างใหม่ ดังนั้นตำแหน่งที่ดูดไขมันไปแล้วนั้น
จะไม่สามารถ
กลับมาสะสมไขมันขึ้นมาใหม่ได้ ท่านที่ดูดไขมันไปแล้วมักจะไม่กลับมาอ้วนในตำแหน่งเดิมอีก แต่ถ้าน้ำหนักขึ้นก็จะไปอ้วนขึ้นในตำแหน่งอื่นที่มีเซลล์ไขมันอยู่แทน
- ตำแหน่งที่ได้ดูดไขมันไปแล้ว อาจจะมีเซลล์
ไขมันหลงเหลืออยู่บ้าง เนื่องจากการดูดไขมันในแต่ละจุดจะนำตัวเซลล์ไขมันออกได้ไปประมาณ 50 ถึง 80 เปอร์เซ็นต์
จะยังเหลือเซลล์ไขมันอยู่บ้าง ดังนั้น
หากน้ำหนักตัวมากขึ้น ตำแหน่งนั้นก็จะยังสามารถใหญ่ขึ้นได้บ้าง แต่ในทางกลับกัน
ถ้าน้ำหนักมีการปรับเปลี่ยนในเชิงของลดลง
บริเวณจุดที่ได้ดูดไปแล้ว ก็สามารถเล็กลงได้อีกเช่นกัน
การดูดไขมันทางหน้าท้องมีกี่วิธี?
โดยเฉพาะกลุ่มไขมันที่ไปสะสมอยู่บริเวณหน้าท้องหรือพุง ซึ่งนอกจากเป็นปัญหาต่อความสวยงามแล้วนั้น
การหาเสื้อผ้าที่ใส่ยากแล้ว ก็ยังส่งผลต่อบุคลิกภาพของเราอีกด้วย
ทำให้ขาดความมั่นใจในตนเอง
การดูดไขมันบริเวณหน้าท้อง เป็นการทำศัลยกรรมที่แก้ปัญหาได้อย่างตรงจุด ซึ่งจะสามารถทำได้ 2 วิธี
ได้แก่
การดูดไขมันทิ้ง และ การดูดไขมันหน้าท้องแบบ
เติมไขมัน ทั้ง 2 วิธีมีข้อแตกต่างกัน ดังนี้
1. การดูดไขมันหน้าท้องแบบทิ้ง
ดูดไขมันพลังงานความร้อน เนื่องจากสามารถสลายไขมันได้ดี ซึ่งพลังงานคลื่นอัลตราซาวด์
จะช่วยให้ไขมันแตกตัวเป็นของเหลว ทำให้ง่ายต่อการดูดออกมา
- สามารถดูดไขมันออกมาทิ้งในปริมาณมากได้ในคราวเดียว
- การดูดไขมันหน้าท้องแบบทิ้ง
ใช้เวลาไม่นาน - เป็นเครื่องที่ใช้พลังความร้อนมาดูดกลุ่มไขมัน
และใช้พลังงานคลื่นเสียง
อัลตร้าซาวด์ มาช่วยสร้างความร้อน ในอุณหภูมิที่สูงกว่าเครื่องดูดไขมันตาม
ท้องตลาดทั่วไป - สลายไขมันเร็วในปริมาณที่มาก
เหมาะกับคนที่มีปัญหาหน้าท้องใหญ่
โดยเฉพาะกลุ่มผู้ชายที่มีพุง
2. การดูดไขมันหน้าท้องในรูปแบบการเติมไขมัน
เพื่อปรับรูปหน้าผากให้สมส่วน หรือนำไปฉีดเติมเต็มในส่วนที่บกพร่อง ในการดูดไขมันจึงต้องคงความสมบูรณ์ของเซลล์ไขมันไว้ หรือทำให้ไขมันยังมีชีวิตอยู่
จะต้องใช้เครื่องดูดไขมันพลังน้ำ เท่านั้น จุดเด่นของเครื่องดูดไขมันชนิดนี้
- การดูดไขมันพลังงานน้ำเป็นการใช้น้ำที่มีประกอบของยาชาและยาที่ทำให้เส้นเลือดหดตัว โดยไม่มีพลังงานความร้อนในการสลายไขมัน
ทำให้ไขมันมีเซลล์ที่สมบูรณ์และ
ยังมีชีวิตอยู่ - เครื่องดูดไขมันด้วยพลังงานน้ำสามารถดูดไขมันและนำไขมันที่ได้มาใช้ฉีด
เพื่อเติมเต็มและแก้ไข
จุดบกพร่องต่างๆ ในร่างกาย
ได้อย่างมีคุณภาพ - การดูดไขมันด้วยพลังงานน้ำทำให้เซลล์ไขมันที่กระจุกตัว
เกาะกลุ่มกัน
มีการแตกตัวออกจากกัน และทำให้ถูกดูดออกมาได้อย่างอ่อนโยน - ไม่เกิดอาการเจ็บปวด ระหว่างทำการดูดไขมัน แผลเล็ก
บอบช้ำน้อย - เซลล์ไขมันที่ได้จะมีสเต็มเชลล์ เมื่อนำไปเติมจะทำการฉีดไขมัน
ได้ผลดี
ไขมันติดมาก ติดดี และติดได้ทนนาน
ข้อห้ามในการดูดไขมัน?
ซึ่งผู้เข้ารับการทำต้องเป็นผู้ที่มีสุขภาพดี โดยที่อย่างน้อยต้องมีน้ำหนักตัว ใกล้เคียงกับเป้าหมายที่ตั้งไว้
มีผิวหนังที่เด้งกระชับ ไม่สูบบุหรี่ นอกจากนั้น แพทย์จะไม่แนะนำให้ทำ หากมีปัญหาเกี่ยวกับสุขภาพ
เช่น การไหลเวียนโลหิต โรคหัวใจ โรคเบาหวาน หรือภูมิคุ้มกันบกพร่อง
หลังจากดูดไขมันแล้ว จะจัดการอย่างไรกับผิวหนังที่ไม่เรียบเนียนเหมือนเดิม
ไม่เรียบ
โดยมีรอยลักษณะเป็นคลื่น
หลงเหลืออยู่ สาเหตุเกิดจากดูดไขมันใน
ชั้นผิวที่
ไม่ลึกมากพอ
หรือบางรายผิวอาจแข็ง เนื่องจากเนื้อเยื่อแข็งขึ้น แต่สามารถรักษาได้โดยการนวด
ไม่ว่าจะเป็น
นวดแผนไทยหรือนวดน้ำมัน
หรือใช้เครื่อง RF รักษาร่วมด้วย
ปัญหาที่ต้องแก้หลังดูดไขมันที่ไม่ถูกต้อง มีอะไรบ้าง?
- ดูดไขมันแล้วผิวบุ๋ม
- ดูดไขมันทั้งตัวจนหุ่นพัง
- ดูดไขมันออกแล้วผิวไม่เรียบเนียนเสมอกัน
หรือดูดไขมันแล้วผิวไหม้ - เกิดพังผืดหลังดูดไขมัน จนทำให้หมดความมั่นใจ
- ดูดไขมันกับคลินิกที่มีราคาถูกมาก
จนเกินไป
โดยไม่ได้หาข้อมูลด้านอื่นๆ - แพทย์ไม่มีความชำนาญและประสบการณ์มากพอ
- เครื่องมือและอุปกรณ์ที่ใช้ดูดไขมันไม่มีประสิทธิภาพ
- ผิวเป็นริ้วคลื่น จากการใส่ชุดกระชับที่ไม่ถูกต้อง
ใส่ชุดกระชับที่ไม่ได้มาตรฐาน
ดูดไขมัน
Body Jet
ที่ Classy Clinic
ได้อีกด้วย
เนื่องจากประสบการณ์การดูดไขมันที่มีมาอย่างยาวนาน ไม่ว่าคุณจะมีปัญหา
มาอย่างไร
เราก็สามารถช่วยให้คุณกลับมามีรูปร่างสวยได้อย่างประณีต
SCHEDULE
A CONSULTATION
SESSION
ปรึกษาฟรี ไม่มีค่าใช้จ่าย
Give yourself some daily rewards because loving and caring for yourself doesn’t need to wait.
เพราะการให้รางวัลกับตัวเอง ไม่ควรต้องรอ
RELATED STORIES
Review from social media FB/IG
Related article
IG STORY