Classy Lips - ฉีดฟิลเลอร์ปาก แบบติดแกลม สไตล์ Classy

Key benefits:

ฉีดฟิลเลอร์​ปาก เสกปากน่าจุ๊บ ได้ตามใจ

ปรึกษา
แพทย์ฟรี

ระยะเวลา(นาที):
45 - 60

ระยะพักฟื้น:
ไม่ต้องพักฟื้น

การฉีดฟิลเลอร์ปาก คืออะไร ?

การฉีดฟิลเลอร์ปาก คือ การฉีดสารเติมเต็มประเภทไฮยาลูรอนิก (Hyaluronic Acid หรือ HA) ที่สร้างขึ้นมาใกล้เคียงกับสารธรรมชาติที่อยู่ในร่างกายของเรา จึงไม่ก่อให้เกิดอันตรายหรือการแพ้ในร่างกาย สามารถสลายเองได้ตามธรรมชาติ ไม่ตกค้างในร่างกาย มีคุณสมบัติในการอุ้มน้ำ เข้าไปบริเวณริมฝีปาก เพื่อเพิ่มเนื้อและปรับโครงสร้างปาก ให้ปากอวบอิ่ม ชุ่มชื้น สวยได้รูป เพิ่มความเซ็กซี่ และมีรอยยิ้มที่สดใส สามารถแต่งทรงปากได้หลากหลายตามที่ต้องการ ทั้งการแก้ปัญหาปากบาง , ปากแห้งลอก , ริ้วรอยบนริมฝีปากที่เป็นร่อง ทำให้ร่องปากเนียน , ลดเลือนริ้วรอยรอบ ๆ มุมปาก , แก้ปัญหาปากบน-ล่างไม่เท่ากัน หรือ รูปปากคว่ำ ให้กลายเป็นรูปทรงที่สวยงาม เป็นวิธีที่ง่าย สะดวก รวดเร็ว เห็นผลลัพธ์ความเปลี่ยนแปลงได้ทันที และสามารถใช้ชีวิตได้ตามปกติโดยไม่ต้องพักฟื้น

Filler ปาก ที่ใช้ในการฉีดปากนั้น จะต้องเป็นฟิลเลอร์ที่มีความละเอียดสูง คงตัวได้ดี ไม่แข็ง ไม่เป็นก้อน เหมาะสมกับการเติมเต็มในบริเวณที่มีการขยับบ่อย ๆ ในปัจจุบันมีให้เลือกพิจารณาหลายรุ่นหลายยี่ห้อ ซึ่งแพทย์จะเป็นคนเลือกยี่ห้อฟิลเลอร์ปากที่ใช้ ตามการประเมินปัญหารูปปาก และทรงปากเดิม คามความเหมาะสมของแต่ละคน

การฉีดฟิลเลอร์ปาก แก้ปัญหาอะไรได้บ้าง ?

  • ปัญหาเนื้อปากไม่เท่ากัน รูปปากดูไม่เป็นทรงสวย
  • แก้ปัญหารูปปากไม่ได้สัดส่วน เช่น ปากเบี้ยว ปากม้วนเข้า มุมปาก 2 ข้างไม่เท่ากัน
  • แก้ปัญหาริมฝีปากบาง หรือริมฝีปากไม่เท่ากัน ตามอายุที่เพิ่มขึ้น หรือปากบางเกินไปจากการศัลยกรรมปาก
  • แก้ปัญหาปากเป็นเส้นตรง ไม่เป็นกระจับ
  • แก้ปัญหาริมฝีปากเเห้ง ขาดความชุ่มชื่น ปากเป็นร่อง ทำให้ทาลิปสติกไม่สวย ไม่เรียบเนียน
  • ฉีดยกมุมปากแก้ปัญหามุมปากตก ปากคว่ำ ทำให้สีหน้าดูบึ้งตึง โดยจะฟิลเลอร์ยกมุมปากให้ทรงสวยขึ้น
  • แก้ปัญหาขอบปากรูปทรงไม่ชัดเจน
  • ช่วยให้รูปหน้าโดยรวมมีมิติมากยิ่งขึ้น
  • สร้างความเซ็กซี่ และเพิ่มเสน่ห์ให้กับใบหน้า
  • สร้างความมั่นใจ เสริมบุคลิกภาพที่ดี
  • ปรับและเสริมโหงวเฮ้งให้กับใบหน้า ให้ปากมีลักษณะที่ดี สมส่วนตามหลักโหงวเฮ้ง

ข้อดีของการฉีดฟิลเลอร์ปาก

  • ปรับเปลี่ยนรูปทรงปากได้ตามต้องการ ให้ผลลัพธ์เป็นธรรมชาติ
  • เห็นผลลัพธ์รวดเร็วและชัดเจน ไม่ต้องพักฟื้น เห็นความเปลี่ยนแปลงทันที
  • ดูแลง่าย ไม่มีแผลและไม่ต้องตัดไหม มีเพียงรอยเข็มจุดเล็กๆ ซึ่งสามารถปกปิดได้ด้วยการทาลิปสติก และจะจางหายไปภายใน 1 สัปดาห์
  • มีความปลอดภัยสูง หากฉีดฟิลเลอร์แท้ โดยแพทย์เฉพาะทางที่มีความเชี่ยวชาญ
  • ไม่ต้องเตรียมร่างกายมากเหมือนกับการผ่าตัด ไม่ต้องงดอาหารก่อนการฉีด Filler ปาก
  • ฟิลเลอร์สามารถสลายไปได้เอง ตามระยะเวลาของฟิลเลอร์แต่ละรุ่น (หากอยากเปลี่ยนรูปทรงปาก สามารถฉีดสลายได้)
  • ค่าใช้จ่ายต่ำกว่าเมื่อเทียบกับการผ่าตัด

ฟิลเลอร์ปากเหมาะกับใคร ?

  • ผู้ที่มีปัญหา ปากบนหนา ปากบนใหญ่ หรือไม่เป็นทรง สามารถปรับทรงให้เป็นปากกระจับได้
  • ผู้ที่ปากคว่ำ ดูแล้วหน้าดุ หน้าบึ้ง ต้องการฉีดยกมุมปากให้ยิ้มสวยขึ้น และหน้าหวานขึ้น
  • ผู้ที่มีริมฝีปากบาง อยากให้เป็นทรงมากขึ้น เพิ่มเสน่ห์ ให้น่าดึงดูด
  • ผู้ที่ปากไม่เท่ากัน เช่น เคยประสบอุบัติเหตุมา หรือเคยมีประวัติผ่าตัดมาก่อน
  • ผู้ที่ริมฝีปากขาดคอลลาเจน แห้งแตก เป็นร่องชัด เห็นริ้วรอยได้ง่าย
  • ผู้ที่ต้องการปรับโหงวเฮ้ง เสริมดวง ปากอิ่มเอิบ รับทรัพย์

ข้อควรระวังในการฉีดฟิลเลอร์ปาก

ก่อนฉีดปาก ฉีดยกมุมปาก ควรระมัดระวังในเรื่องคุณภาพของฟิลเลอร์ ต้องเป็นฟิลเลอร์แท้ 100% จากบริษัทยา และต้องได้รับรองมาตรฐานจาก อย. ไทย รวมไปถึงการเลือกสถานที่ที่ได้มาตรฐาน , อุปกรณ์ที่ใช้ต้องปราศจากเชื้อ และแพทย์ที่ต้องมีความเชี่ยวชาญและมีประสบการณ์ในการฉีดฟิลเลอร์ปากโดยตรง มีการติดตามผลหลังจากฉีด Filler ปากอย่างต่อเนื่อง จึงจะทำให้ผลลัพธ์เป็นไปตามที่ต้องการ และลดผลข้างเคียงที่จะเกิดขึ้นได้

หากแพทย์ไม่ชำนาญและระมัดระวังพอ รวมถึงชนิดของฟิลเลอร์ไม่เหมาะสมกับบริเวณที่ฉีดปาก ฉีดยกมุมปาก ปริมาณฟิลเลอร์ที่ใช้ฉีดปาก ฉีดยกมุมปากมากเกินไป และที่สำคัญที่สุดคือการฉีดฟิลเลอร์ปลอม จำพวก ซิลิโคนเหลว , ไบโอพลาสติก (Bioplastics) , พาราฟิน (Paraffin) ซึ่งเป็นสารโพลิเมอร์ (Polymer) ที่ใช้ในอุตสาหกรรมการผลิตสิ่งของ ทำมาจากพลาสติก หากเข้าสู่ร่างกายจะไม่สามารถดูดซึมได้ ซึ่งก่อให้เกิดอันตราย ดังนี้

  • ใต้ชั้นผิวหนัง ติดเชื้อ มีการอักเสบรุนเเรง
  • ผิวบริเวณที่ฉีดฟิลเลอร์เป็นก้อน ขรุขระ เป็นคลื่น ผิวหนังไม่เรียบ
  • ใบหน้าผิดรูปทรง ไม่เป็นไปตามที่ต้องการ เนื่องจากฟิลเลอร์ไหล เคลื่อนไปสู่ตำแหน่งอื่น
  • เกิดอาการเน่า เขียวช้ำ บวมเป็นก้อน
  • เนื้อปากตาย มีพังผืด
  • เส้นประสาทถูกทำลาย
  • ฟิลเลอร์ไม่สลายไปตามธรรมชาติ จนต้องผ่าตัดเพื่อขูดออก
  • อาจร้ายแรงถึงขั้นตาบอด หากฟิลเลอร์อุดตันเส้นเลือด และฟิลเลอร์เข้าไปสู่เส้นเลือดที่เลี้ยงดวงตา
  • หากเลือกยี่ห้อฟิลเลอร์ หรือใช้ฟิลเลอร์ในปริมาณที่ไม่เหมาะสม อาจทำให้ปากขยายใหญ่บานออกมา หรือปากเจ่อมากเกินไป
ในกรณีที่พลาดไปฉีดฟิลเลอร์ปาก ฟิลเลอร์ยกมุมปากกับผู้ที่ไม่เชี่ยวชาญมาแล้ว ก็สามารถปรึกษาให้แพทย์เฉพาะทางที่ Classy Clinic แก้ไขฉีดสลายฟิลเลอร์เก่าออก และทำการฉีดฟิลเลอร์ใหม่ที่ปลอดภัยและได้มาตรฐาน
และอีกหนึ่งกรณีที่ควรระวัง คือ คนไข้ที่ผ่านการผ่าตัดริมฝีปากมากก่อนแล้วต้องการฉีด Filler ปาก ต้องแจ้งแพทย์ว่าเคยผ่าตัดมาก่อน เพราะในกรณีนี้เส้นเลือดบางส่วนของคนไข้จะโดนรอยแผลที่เป็นพังผืดปิดกั้น ทำให้แพทย์ต้องเพิ่มความระมัดระวังในการฉีดปากมากขึ้น และมีความเสี่ยงในการฉีดฟิลเลอร์อุดตันเส้นเลือดได้มากกว่าเคสปกติ

ฟิลเลอร์ปากต้องใช้กี่ CC

โดยปกติทั่วไป การฉีดฟิลเลอร์ปากสำหรับผู้มีปัญหาปากบาง ปากรูปทรงไม่สวย ปากไม่มีกระจับ จะใช้ประมาณ 1 cc ก็สามารถเห็นความเปลี่ยนแปลงได้ชัดเจน เเต่ถ้าต้องการเพิ่มวอลลุ่มให้ปากฟูดูเซ็กซี่ และอวบอิ่มแบบฝรั่ง อาจจะต้องใช้ฟิลเลอร์ประมาณ 2 cc หรือมากกว่า โดยแพทย์จะประเมินปริมาณฟิลเลอร์ตามความเหมาะสมของปัญหาในแต่ละบุคคล เพื่อให้สวยงามเหมาะกับรูปหน้าและตรงกับความต้องการมากที่สุด

ฉีดฟิลเลอร์ปาก ทรงไหนดี ? ทรงปากยอดนิยม ยอดฮิตของสาว ๆ

อัตราสัดส่วนรูปปากที่เหมาะสม และลักษณะริมฝีปากในอุดมคติ
ริมฝีปากที่สวยเหมาะสมกับคนไทยนั้น ควรมีสัดส่วนสัดส่วนรูปปาก ระหว่างริมฝีปากบนและล่าง ต้องมีอัตราส่วน 1:1.68 ถึงจะตรงกับสัดส่วนที่พอดี ดูอวบอิ่มเป็นธรรมชาติไม่เยอะหรือบางเกินไป
  • ร่องริมฝีปากบน ควรมีขอบหยักที่ชัด เพื่อให้ปากดูเชิดและมีมิติ
  • สันร่องริมฝีปากบน ควรเป็นสันที่ชัดเจนไม่กว้างจนเกินไป และไม่แบนราบ
  • มุมปาก ช่วงมุมปากควรมีองศาที่ยกไม่คว่ำลง
  • ขอบปาก ทั้งริมฝีปากบนและล่างควรมีขอบปากที่ชัดสม่ำเสมอ และมีสัดส่วนที่เท่ากัน
  • เนื้อปาก ควรมีความอวบอิ่ม ชุ่มชื้น ไม่มีรอยแตกแห้ง

ฉีดฟิลเลอร์ปาก ทรงไหนดี ? ทรงไหนฮิต ทรงไหนปัง 2025

สำหรับการฉีดฟิลเลอร์ปาก ทรงปากที่ได้รับความนิยม มีตั้งแต่ทรงปากสไตล์เกาหลี ทรงปากสไตล์สายฝอ และทรงปากกระจับ ซึ่งแต่ละแบบจะมีลักษณะรูปทรงที่ต่างกัน

Filler ปาก ทรงปากสไต ล์เกาหลี

ลักษณะของปากทรงนี้จะเหมือนลูกเชอร์รี 2 ลูก มาประกบกันอยู่ตรงกลางริมฝีปาก โดยช่วงกลางของริมฝีปากบนและล่างจะดูอิ่มฟูกว่าด้านข้าง ช่วยปรับทรงปากให้ดูอวบอิ่ม เต็ม ฟู และยังทำให้หน้าดูเด็กลงอีกด้วย

Filler ปาก ทรงปากสไตล์สายฝอ

สไตล์สายฝอ. หรือทรงปากแบบฝรั่ง ได้กระแสความงามมาจากทางฝรั่งตะวันตก รูปทรงปากที่มีความอวบอิ่มฟู สวยเซ็กซี่แบบสไตล์ฝรั่ง จะมีด้วยกัน 2 แบบ คือ

  • ปากอวบอิ่ม เซ็กซี่ (อวบอิ่มแต่ปากล่าง)
    โดยริมฝีปากจะเต็มอิ่มโดยเฉพาะริมฝีปากล่าง ส่วนริมฝีปากบนจะมีความเจ่อเพียงเล็กน้อย
  • ปากอวบหนา เต็มสวย (อวบอิ่มทั้งปากล่างและบน)
    โดยริมฝีปากจะเต็มอิ่มทั้งริมฝีปากล่างและริมฝีปากบน ขึ้นอยู่กับความชอบของแต่ละคน

Filler ปาก ทรงปากกระจับ

ทรงปากกระจับ เป็นการปรับรูปทรงริมฝีปาก ทั้งส่วนบนและส่วนล่างได้รูปสวยงามรับกับใบหน้า โดยริมฝีปากจะมีความโค้งเรียวสวยคล้ายผลกระจับ จึงเป็นที่มาที่เรียกรูปปากทรงนี้ว่าปากกระจับ หรือบางคนอาจจะเรียกว่าปากปีกนก เพราะลักษณะมุมปากกระจับจะเรียวและยกขึ้นคล้ายปีกนก เป็นรูปทรงปากช่วยเพิ่มมิติให้ใบหน้า เป็นปากกระจับ ธรรมชาติ ไม่บางหรือเรียบแบนจนเกินไป และได้รูปสวยงามทั้งปากบนและปากล่าง

A Showcase of Refined Results

CLASSY LIPS

การเตรียมตัวก่อนฉีดฟิลเลอร์ปาก

  • ศึกษาข้อมูลที่จำเป็น ทั้งการเลือกคลินิกที่ได้มาตรฐาน, การเลือกแพทย์, เทคนิคในการทำ รวมไปถึงวิธีการสังเกตฟิลเลอร์แท้แต่ละยี่ห้อ และดูรีวิวฉีดฟิลเลอร์ปาก ฉีดฟิลเลอร์ยกมุมปาก จากผู้ใช้บริการจริงในคลินิกนั้น ๆ เพื่อประกอบการตัดสินใจ
  • หากเคยผ่าตัดริมฝีปากมาก่อน ควรแจ้งแพทย์ให้ทราบ
  • หากมีโรคประจำตัวหรือแพ้ยาชาและยาชนิดอื่น ๆ ควรแจ้งให้แพทย์ทราบก่อนทำทุกครั้ง
  • งดรับประทานยา กลุ่มแอสไพริน และวิตามิน อาหารเสริมทุกชนิด ก่อนฉีดฟิลเลอร์ปาก 7-14 วัน หากมียาที่ต้องรับประทานประจำ ควรแจ้งแพทย์ให้ทราบ
  • งดสครับและเลเซอร์ปาก อย่างน้อย 3-7 วัน
    งดดื่มแอลกอฮอล์ อย่างน้อย 1-3 วัน
  • ไม่ได้อยู่ในช่วงตั้งครรภ์ , ให้นมบุตร หรือมีปัญหาเลือดออกแล้วหยุดยาก
  • แพทย์จะพิจารณาให้กินยาห้ามเลือดหรือฉีดยาลดบวมในบางเคส เพื่อลดความเสี่ยงในการบวมช้ำ อักเสบติดเชื้อ

ขั้นตอนการฉีดฟิลเลอร์ปาก ฉีดฟิลเลอร์ยกมุมปาก

  • แพทย์จะเป็นผู้ทำการประเมินและวิเคราะห์ริมฝีปากของคนไข้ พร้อมทั้งให้คำแนะนำเกี่ยวกับชนิดหรือยี่ห้อฟิลเลอร์ และสัดส่วนของปริมาณที่ต้องการใช้ และกำหนดบริเวณที่จะฉีดฟิลเลอร์ พร้อมทำสัญลักษณ์ในแต่ละจุดไว้
  • แพทย์จะทำการแปะยาชา เพื่อเป็นการป้องกันอาการช้ำและบรรเทาความเจ็บปวดที่อาจเกิดขึ้นขณะฉีดฟิลเลอร์ โดยใช้เวลาประมาณ 30 นาที – 1 ชั่วโมง เพื่อให้ยาชาออกฤทธิ์
  • หลังจากที่ยาชาออกฤทธิ์ แพทย์จะฉีด Filler ปากตามจุดที่กำหนดไว้ ซึ่งเทคนิคและระยะเวลาในการฉีดปากจะแตกต่างกันขึ้นอยู่กับรูปทรงที่ต้องการ รูปริมฝีปากก่อนทำ และเนื้อปากของแต่ละบุคคล
  • แพทย์อาจะมีการนวดคลึง หรือจัดทรงเพียงเล็กน้อย เพื่อให้ฟิลเลอร์คงรูปสวยตามทรงที่คนไข้ต้องการ

การดูแลหลังฉีดฟิลเลอร์ปาก

  • หากมีอาการบวม เจ็บ คัน ตึง หรือรอยฟกช้ำบริเวณที่ฉีด ให้ใช้น้ำแข็งประคบเบา ๆ และทาเจลหรือครีมว่านหางจระเข้ หรือวิตามินเค
  • หากก่อนทำไม่ได้รับประทานยาฆ่าเชื้อ หลังทำควรรีบกินยาฆ่าเชื้อทันที
  • ควรดื่มน้ำมาก ๆ เพื่อเพิ่มการอุ้มน้ำของฟิลเลอร์ และช่วยให้ฟิลเลอร์ฟู อยู่ได้นานขึ้น
  • รับประทานยาและปฏิบัติตามแพทย์สั่งอย่างเคร่งครัด โดยแพทย์จะมีการตรวจและติดตามผล ในช่วง 1-4 สัปดาห์
  • งดทาลิปสติก สูบบุหรี่ และใช้หลอดดูดน้ำ ในระยะเวลา 24 ชั่วโมงแรก
  • หลีกเลี่ยงการแตะ แกะ เกาบริเวณริมฝีปาก และอาจมีอาการบวมแดงหรือเขียวช้ำเป็นปกติ และจะค่อย ๆ ดีขึ้นใน 2-3 วัน
  • หลีกเลี่ยงการ บีบ นวด คลึง บริเวณริมฝีปาก เพราะอาจทำให้รูปปากเสียรูปทรงได้
    หลีกเลี่ยงการนอนคว่ำ และพยายามหนุนหมอนสูง เพื่อช่วยลดอาการบวม
  • ควรอยู่ในที่อาการเย็น หลีกเลี่ยงความร้อนทุกชนิด และกิจกรรมกลางแจ้ง อย่างน้อย 2 วัน
  • ควรงดรับประทานอาหารบางชนิดที่ส่งผลต่อการอักเสบ อาหารหมักดอง หรืออาหารรสจัด และเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ อย่างน้อย 14 วัน
  • งดเลเซอร์ อบไอน้ำ หรืออบซาวด์หน้า ที่ใช้ความร้อน อย่างน้อย 1 เดือน
  • ควรรับประทานและเครื่องดื่มอุณหภูมิปกติ เลี่ยงของร้อน เพราะอาจทำให้ปากเกิดอาการบวม และความร้อนอาจทำให้ฟิลเลอร์สลายเร็วขึ้น
  • หากมีอาการปวดบวมแดงมากผิดปกติ หรือสีผิวหนังบริเวณที่ฉีด เปลี่ยนเป็นสีซีด สีน้ำตาล หรือดำ ควรรีบพบแพทย์ทันที

อาการข้างเคียงที่อาจเกิดขึ้น หลังฉีดฟิลเลอร์ปาก

ผลข้างเคียงที่อาจเกิดขึ้นได้เป็นเรื่องปกติ ซึ่งอาการแต่ละคนอาจไม่เหมือนกัน โดยจะมีอาการ ดังนี้

  • อาจมีรอยบวมแดง รอยฟกช้ำในบริเวณที่ฉีด หรือรู้สึกเจ็บจากอาการบวมได้ แต่จะค่อย ๆ ดีขึ้น และเมื่ออาการบวมหายเป็นปกติแล้ว ก็จะเห็นรูปทรงปากที่ชัดเจนขึ้น
  • หลังฉีดช่วงแรกอาจคลำพบก้อนเล็กแข็งเหมือนยางลบใต้ผิวหนัง ซึ่งจะละลายตัวและนิ่มเป็นเนื้อเดียวกันเองภายใน 2-4 สัปดาห์
  • อาจมีการปวดตึงบริเวณที่ฉีด บรรเทาอาการด้วยการประคบเย็นหรือทานยาแก้ปวด
  • หลังฉีดปาก 3-4 ชม.แรก ถ้ามีการปวดตื้อ ๆ อยู่สามารถนวดโดยการเม้มปากเบา ๆ และประคบเย็นได้
  • หากมีอาการบวมนานกว่าปกติ ร่วมกับอาการแดง อาการอักเสบ เจ็บมากกว่าปกติ หรือมีตุ่มหนองและตุ่มใสๆ ร่วมด้วย ควรรีบมาพบแพทย์ทันทีเมื่อมีอาการ
  • กรณีอาการปวดบวมแดงมากผิดปกติ หรือสีผิวหนังบริเวณที่ฉีดเปลี่ยนไปเป็นสีซีด เป็นสีน้ำตาล หรือดำ ควรรีบแจ้งแพทย์ที่ทำการรักษาทันที

คำถามพบบ่อยเกี่ยวกับการฉีดฟิลเลอร์ปาก

ฉีดฟิลเลอร์ปากเจ็บไหม ?
การฉีดฟิลเลอร์ปาก หลายๆ คนกลัวว่าตอนฉีดปากเจ็บไหม ในความเป็นจริงแล้วการฉีดฟิลเลอร์ปากไม่ได้เจ็บอย่างที่ใครหลายๆ คนคิด เพราะการฉีดฟิลเลอร์ปากจะเจ็บน้อยกว่าการผ่าตัดศัลยกรรมปากค่อนข้างมาก และใช้ระยะเวลาในการทำที่ไม่นาน ซึ่งก่อนการทำฉีดฟิลเลอร์ปาก ทางคลินิกจะมีการแปะยาชาเพื่อช่วยลดความเจ็บก่อนฉีดให้ทุกครั้ง หรือในฟิลเลอร์บางยี่ห้อ ก็จะมีคุณสมบัติที่มียาชาในตัวด้วย ช่วยบรรเทาความเจ็บปวดขณะฉีดฟิลเลอร์ได้

การฉีดฟิลเลอร์ปาก ไม่อันตราย หากฉีดโดยแพทย์เฉพาะทางที่มีประสบการณ์ เชี่ยวชาญในเรื่องกายวิภาค และใช้ฟิลเลอร์แท้

เนื่องจากแพทย์จะรู้เทคนิคในการฉีดปากที่ถูกต้อง เพราะริมฝีปากประกอบด้วยเส้นเลือดฝอยขนาดเล็กจำนวนมาก ต้องใช้ความระมัดระวังในการฉีด เพื่อไม่ให้เกิดฟิลเลอร์อุดตันเส้นเลือด หรือฉีดโดนเส้นเลือดหลักที่อยู่ลึกลงไป ซึ่งถ้าเป็นหมอที่มีประสบการณ์ การฉีดฟิลเลอร์ปากก็มีความปลอดภัย 100% แต่ถึงแม้จะเกิดการอุดตันเส้นเลือด ด้วยเทคนิคการแก้ไขที่มีในปัจจุบันก็สามารถฉีดสลายฟิลเลอร์และแก้ไขให้กลับคืนมาได้ภายใน 7-14 วัน เป็นเหตุผลว่าทำไมจึงควรฉีดฟิลเลอร์ปาก ฉีดยกมุมปากกับแพทย์ที่มีประสบการณ์เท่านั้น เพราะหากเกิดเหตุสุดวิสัยก็สามารถจะแก้ไขได้อย่างทันท่วงที

และการใช้ฟิลเลอร์แท้ ที่เป็นสารเติมเต็มประเภทไฮยาลูรอนิก (Hyaluronic Acid : HA) มีความปลอดภัย ได้การรับรองจาก อย. ไทย สามารถสลายไปได้เองตามธรรมชาติ ไม่ตกค้างในร่างกาย

  • อาการบวมที่ริมฝีปากหลังฉีดฟิลเลอร์จะเกิดขึ้นประมาณ 2-3 วันแรก
  • ในบางรายที่มีผิวบวมง่าย ริมฝีปากอาจบวมประมาณ 5-7 วัน แต่ไม่ต้องกังวล เพราะอาการเหล่านี้จะค่อย ๆ ยุบลง และหายไปได้เอง
  • ภายใน 7-14 วัน ริมฝีปากจะเริ่มเข้าที่ อวบอิ่ม เห็นทรงสวย ดูเป็นธรรมชาติ
  • ทั้งนี้ต้องปฏิบัติตามคำแนะนำของแพทย์อย่างเคร่งครัด
  • แนะนำงดการกด นวด สัมผัส รวมถึงงดรับประทานอาหารรสจัด เครื่องดื่มร้อน แอลกอฮอล์ เพื่อทำให้อาการบวมยุบลงได้ไว

ฉีดฟิลเลอร์ปากอยู่ได้นานแค่ไหน ?

การฉีดฟิลเลอร์ปากให้ผลลัพธ์ยาวนาน ประมาณ 6-18 เดือน โดยขึ้นอยู่กับรุ่นหรือยี่ห้อของฟิลเลอร์ และวิธีการดูแลตัวเองหลังฉีด เมื่อครบกำหนดเวลา ฟิลเลอร์จะสลายไปตามธรรมชาติ 100%

โดยแนะนำให้หลังจากทำไปประมาณ 3-4 เดือน สามารถกลับมาฉีดปาก ฉีดยกมุมปากซ้ำได้ เพื่อคงสภาพรูปปากให้อิ่มฟูเหมือนตอนทำในช่วงแรกและอยู่ได้นานมากขึ้น

รีวิว ฉีดฟิลเลอร์ปาก คลาสซี่ หมอจูน Classy Lips

ทำไมต้องฉีดฟิลเลอร์ปาก ฟิลเลอร์ยกมุมปาก ที่ Classy Clinic

ที่ Classy ใช้แพทย์เฉพาะทางที่มีประสบการณ์เฉพาะด้าน ร่วมประเมินและออกแบบรูปปากให้กับคนไข้เพื่อวางแผนการรักษาอย่างตรงไปตรงมาและเหมาะสมกับใบหน้าของแต่ละบุคคล มีเทคนิคลงเข็มที่แม่นยำ และแก้ไขปัญหาได้อย่างตรงจุด คลินิกของเราใช้ฟิลเลอร์แท้ทุกกล่อง ผ่านการรับรองจาก อย. ตรวจสอบได้ พร้อมแกะกล่องให้คนไข้ดูก่อนฉีด Filler ปากทุกเคส รับประกันมาตรฐานความปลอดภัย การันตีฝีมือแพทย์ด้วยใบรับรองและรางวัลมากมาย พร้อมทั้งรีวิวความประทับใจจากคนไข้จริง

SCHEDULE
A CONSULTATION
SESSION

ปรึกษาฟรี ไม่มีค่าใช้จ่าย

Give yourself some daily rewards because loving and caring for yourself doesn’t need to wait.

เพราะการให้รางวัลกับตัวเอง ไม่ควรต้องรอ

RELATED STORIES