HIFU - คลื่นความร้อนยกกระชับใบหน้า
Key benefits:
hifu ยกกระชับใบหน้า ปรับหน้าเรียว
ปรึกษา
แพทย์ฟรี
ระยะเวลา(นาที):
45 - 60
ระยะพักฟื้น:
ไม่ต้องพักฟื้น
VNC HIFU
คืออะไร?
ช่วยยกกระชับ ปรับหน้าเรียวได้จริงไหม?
HIFU
คืออะไร?
ไฮฟู่ (High Intensity Focus Ultrasound)
หรือ Smas Lift
เป็นการใช้คลื่นอัลตร้าซาวด์ความเข้มข้นสูง
ส่งเข้าไปทำลายเนื้อเยื่อในชั้นผิวหนัง
ถึงผิวหนังชั้น SMAS ให้เกิดการหดตัว
คล้ายกับการเย็บที่เนื้อช่วยกระตุ้นให้สร้างคอลลาเจน
หรือสร้างเนื้อเยื่อใหม่ใต้ผิวหนัง โดยคลื่นอัลตร้าซาวด์นี้จะไม่ส่งผลกระทบต่อ
ผิวชั้นนอก
และไม่ส่งผลต่อระบบการทำงานของร่างกาย โดยความลึกของไฮฟู่นั้น
จะปล่อยพลังงานอยู่ที่ช่วง 3.0 mm – 4.5 mm
แต่ถ้าเป็นการลงระดับพลังงานที่ตัวนั้นจะมีตั้งแต่ 7 mm, 13 mm เป็นต้น
เพื่อให้มีเหมาะสมกับการใช้งานตำแหน่งต่างๆได้เป็นอย่างดี
หรือ Smas Lift
เป็นการใช้คลื่นอัลตร้าซาวด์ความเข้มข้นสูง
ส่งเข้าไปทำลายเนื้อเยื่อในชั้นผิวหนัง
ถึงผิวหนังชั้น SMAS ให้เกิดการหดตัว
คล้ายกับการเย็บที่เนื้อช่วยกระตุ้นให้สร้างคอลลาเจน
หรือสร้างเนื้อเยื่อใหม่ใต้ผิวหนัง โดยคลื่นอัลตร้าซาวด์นี้จะไม่ส่งผลกระทบต่อ
ผิวชั้นนอก
และไม่ส่งผลต่อระบบการทำงานของร่างกาย โดยความลึกของไฮฟู่นั้น
จะปล่อยพลังงานอยู่ที่ช่วง 3.0 mm – 4.5 mm
แต่ถ้าเป็นการลงระดับพลังงานที่ตัวนั้นจะมีตั้งแต่ 7 mm, 13 mm เป็นต้น
เพื่อให้มีเหมาะสมกับการใช้งานตำแหน่งต่างๆได้เป็นอย่างดี
- ช่วยยกกระชับผิวที่หย่อนคล้อย
- ช่วยกระชับผิวที่มีไขมันเหนียง
- ช่วยสลายไขมันเห็นผลชัดเจน
ตั้งแต่ครั้งแรกที่ทำ - กระตุ้นคอลลาเจนและอีลาสติน
หลักการทำงานของ
HIFU
คือการปล่อยคลื่นอัลตร้าซาวด์ความร้อน
ในอุณหภูมิที่เหมาะสมกับผิวหน้าของคนไข้แต่ละราย สู่ชั้นผิวหนังบนใบหน้าชั้น SMAS (Superficial musculoaponeurotic system) เป็นชั้นพังผืดที่รองรับเนื้อเยื่อของผิวหนังที่ลึกถึง 4.5 มม.
ยกตัวอย่างเช่น ผู้ที่มีปัญหาแก้ม หรือใบบ้าน
หย่อนคล้อยมาก ซึ่งถ้าหากได้ทำการผ่าตัดดึงหน้า ศัลยแพทย์จะต้องผ่าตัดดึงชั้น SMAS นี้ให้ตึงนั่นเอง
ยกตัวอย่างเช่น ผู้ที่มีปัญหาแก้ม หรือใบบ้าน
หย่อนคล้อยมาก ซึ่งถ้าหากได้ทำการผ่าตัดดึงหน้า ศัลยแพทย์จะต้องผ่าตัดดึงชั้น SMAS นี้ให้ตึงนั่นเอง
คือการปล่อยคลื่นอัลตร้าซาวด์ความร้อน
ในอุณหภูมิที่เหมาะสมกับผิวหน้าของคนไข้แต่ละราย สู่ชั้นผิวหนังบนใบหน้าชั้น SMAS (Superficial musculoaponeurotic system)
เป็นชั้นพังผืดที่รองรับเนื้อเยื่อของผิวหนังที่ลึกถึง 4.5 มม. ยกตัวอย่างเช่น
ผู้ที่มีปัญหาแก้ม
หรือใบบ้านหย่อนคล้อยมาก ซึ่งถ้าหากได้ทำการผ่าตัดดึงหน้า
ศัลยแพทย์จะต้องผ่าตัดดึงชั้น SMAS นี้ให้ตึงนั่นเอง
ในอุณหภูมิที่เหมาะสมกับผิวหน้าของคนไข้แต่ละราย สู่ชั้นผิวหนังบนใบหน้าชั้น SMAS (Superficial musculoaponeurotic system)
เป็นชั้นพังผืดที่รองรับเนื้อเยื่อของผิวหนังที่ลึกถึง 4.5 มม. ยกตัวอย่างเช่น
ผู้ที่มีปัญหาแก้ม
หรือใบบ้านหย่อนคล้อยมาก ซึ่งถ้าหากได้ทำการผ่าตัดดึงหน้า
ศัลยแพทย์จะต้องผ่าตัดดึงชั้น SMAS นี้ให้ตึงนั่นเอง
เมื่อปล่อยคลื่นคลื่นพลังงานความร้อนลงบนใต้ผิวจึงทำให้ชั้นผิวจะหดตัวจาก
พลังงานความร้อนที่ถูกยิงลงไปในใต้ผิว
โดยที่ค่าพลังงานของคลื่นเฉลี่ยประมาณ
60 องศา จะไม่ทำให้ผิวหนังชั้นบนร้อน จึงไม่ทำให้ผิวด้านบนเกิดการไหม้หรือแสบร้อน
การบริการแบบนี้ช่วยแก้ปัญหาต่างๆ และช่วยยกมุมปาก หางตา หนังตาตก คิ้วตก อีกทั้งทำให้ผิวดูอ่อนเยาว์ขึ้น
หลังการเข้ารับบริการสามารถแต่งหน้าทำกิจกรรมได้ตามปกติ
โดยไมทิ้งรอยแดงที่ใบหน้า หรือรอยไหม้ ดังนั้นไฮฟู่จึงเป็นนวัตกรรม
ที่
เหมาะสมกับผู้ที่มีปัญหาของความหย่อนคล้อยบนใบหน้า และกลัวการใช้บริการในรูปแบบของการใช้เข็ม
เหมาะกับผู้ที่เริ่มต้น มีริ้วรอย 30-35 ขึ้นไป
พลังงานความร้อนที่ถูกยิงลงไปในใต้ผิว
โดยที่ค่าพลังงานของคลื่นเฉลี่ยประมาณ
60 องศา จะไม่ทำให้ผิวหนังชั้นบนร้อน จึงไม่ทำให้ผิวด้านบนเกิดการไหม้หรือแสบร้อน
การบริการแบบนี้ช่วยแก้ปัญหาต่างๆ และช่วยยกมุมปาก หางตา หนังตาตก คิ้วตก อีกทั้งทำให้ผิวดูอ่อนเยาว์ขึ้น
หลังการเข้ารับบริการสามารถแต่งหน้าทำกิจกรรมได้ตามปกติ
โดยไมทิ้งรอยแดงที่ใบหน้า หรือรอยไหม้ ดังนั้นไฮฟู่จึงเป็นนวัตกรรม
ที่
เหมาะสมกับผู้ที่มีปัญหาของความหย่อนคล้อยบนใบหน้า และกลัวการใช้บริการในรูปแบบของการใช้เข็ม
เหมาะกับผู้ที่เริ่มต้น มีริ้วรอย 30-35 ขึ้นไป
HIFU
ควรทํากี่ช็อต?
การทำไฮฟู่ กี่ช็อตนั้น ขึ้นอยู่กับปัญหาผิว
เพราะปัญหาบนใบหน้าของแต่ละคนไม่เหมือนกัน
ทั้งปริมาณไขมันและความหย่อนคล้อยของผิว
โดยแพทย์จะเป็นผู้ประเมินให้อย่างละเอียด
เพื่อจะได้แก้ปัญหาได้อย่างตรงจุดมากขึ้น และเนื่องจาก
ไฮฟู่
เป็นเครื่องมือยกกระชับผิวที่มีหัวยิงหลายหัว ตามระดับความลึกของผิวในบริเวณนั้นๆ
เพราะปัญหาบนใบหน้าของแต่ละคนไม่เหมือนกัน
ทั้งปริมาณไขมันและความหย่อนคล้อยของผิว
โดยแพทย์จะเป็นผู้ประเมินให้อย่างละเอียด
เพื่อจะได้แก้ปัญหาได้อย่างตรงจุดมากขึ้น และเนื่องจาก
ไฮฟู่
เป็นเครื่องมือยกกระชับผิวที่มีหัวยิงหลายหัว ตามระดับความลึกของผิวในบริเวณนั้นๆ
- หัวยิงความลึก 1.5-2.0 mm
จะใช้กับผิวชั้นบน ช่วยเรื่องการลดริ้วรอยรอบดวงตา
ระหว่างคิ้ว และหน้าผาก - หัวยิงความลึก 3.0 mm
จะใช้กับผิวชั้นกลาง ช่วยยกกระชับใบหน้า
กระตุ้นคอลลาเจนบริเวณแก้ม - หัวยิงความลึก 4.5 mm
จะใช้กับผิวชั้น SMAS ช่วยยกแก้ม เก็บกรอบหน้า
ลดร่องแก้ม ลดเหนียง
แต่ถ้าให้ประมาณตามจำนวนช็อต เพื่อเป็นแนวทางในการคำนวณงบประมาณ
จำนวนช็อตที่ใช้ยิงในแต่ละตำแหน่ง จะประมาณได้ ดังนี้
จำนวนช็อตที่ใช้ยิงในแต่ละตำแหน่ง จะประมาณได้ ดังนี้
- บริเวณ แก้ม หรือ เหนียง
ประมาณ 100 ช็อต(ไลน์) - บริเวณ แก้ม + เหนียง
ประมาณ 300 ช็อต(ไลน์) - บริเวณ ใต้ตา และ ร่องแก้ม
ประมาณ 300 ช็อต(ไลน์) - บริเวณ ทั่วหน้า หรือ ต้นแขน
ประมาณ 700 ช็อต(ไลน์) - บริเวณ ทั่วหน้า + คอ หรือ ต้นขา
ประมาณ 1,000 ช็อต(ไลน์)
HIFU
มีกี่แบบ?
สามารถแบ่งเครื่องไฮฟู่ ออกเป็น 3 แบบ
ตามขนาดของคลื่นพลังงาน
ชนิดของหัวยิงของ
ไฮฟู่ที่ใช้ และแบ่งตามประเทศผู้ผลิต
ตามขนาดของคลื่นพลังงาน
ชนิดของหัวยิงของ
ไฮฟู่ที่ใช้ และแบ่งตามประเทศผู้ผลิต
แบ่งตามคลื่นพลังงานที่ใช้
- เครื่องไฮฟู ที่ปล่อยพลังงานในรูปแบบ Micro Focused Ultrasound
เป็นเครื่องที่ปล่อยคลื่นพลังงานที่มีขนาดเส้นผ่าศูนย์กลางประมาณ 0.5-1 เข้าสู่ชั้นผิวหนังที่ต้องการรักษา ลงสู่ถึงชั้นผิวลึกระดับ 1.5 mm. 3 mm. และ 4.5 mm.
ช่วยยกกระชับผิวหน้าให้เต่งตึง อีกทั้งยังกระตุ้นการสร้างและเรียงตัวใหม่ของคอลลาเจนและอิลาสตินในชั้นผิว - เครื่องไฮฟู่ ที่ปล่อยพลังงานในรูปแบบ Macro Focused Ultrasound
เป็นเครื่องไฮฟู่ ที่ปล่อยคลื่นพลังงานที่มีขนาดเส้นผ่าศูนย์กลางที่ 1 มีพลังงานสูงกว่า Micro Focused Ultrasound ถึง 8 เท่า ทำให้ยิงลงชั้นผิวได้ลึกกว่าในระดับ
6 mm. 9 mm. และ 13 mm. - เครื่องไฮฟู่ ที่ปล่อยพลังงานในรูปแบบ MMFU (Micro and Macro Focused Ultrasound) เป็นเครื่อง
ไฮฟู่ในรูปแบบใหม่ที่พัฒนามาให้ใช้คลื่นพลังงานได้ทั้ง
2 รูปแบบ ทำให้แพทย์ปรับใช้ระดับค่าพลังงานที่เหมาะสมกับผิวในแต่ละส่วนได้ดีกว่า
การให้ผลลัพธ์หลังการรักษาที่ชัดเจนมากยิ่งขึ้น
แบ่งตามชนิดของหัวยิงที่ใช้
- Line Cartridge หัวยิงมีลักษณะเป็นหัวเหลี่ยมขนาดใหญ่ เมื่อกดยิง 1 ครั้ง
จุดพลังงาน (dot) ที่ปล่อยออกมาจะเป็นแถว ประกอบไปด้วย 12-15 dot - Single Shot หัวยิงมีขนาดเรียวเล็กมากกว่า
เหมาะกับการใช้ในบริเวณมุมแคบๆบนใบหน้า เช่น บริเวณร่องแก้ม ร่องปาก ขมับ
หางตาระหว่างคิ้ว เมื่อกดยิง 1 ครั้ง
จุดพลังงานจะออกมา 1 shot
แบ่งตามประเทศผู้ผลิต
ปัจจุบันมีประเทศผู้ผลิตเครื่องไฮฟู่ หลากหลายประเทศ ได้แก่ ประเทศอเมริกา เกาหลี จีน และอิสราเอล ซึ่งมีเครื่องไฮฟู่ที่มีมาตรฐาน ทั้งยังได้รับความนิยมในวงการความงามทั่วโลก
หลายยี่ห้อ เช่น เครื่อง Ulthera, Liftera, Ultraformer, Power V Max Lift, UltraV, Exilis, Smazlift เป็นต้น
หลายยี่ห้อ เช่น เครื่อง Ulthera, Liftera, Ultraformer, Power V Max Lift, UltraV, Exilis, Smazlift เป็นต้น
ข้อดีของการทำ
HIFU
- เป็นหัตถการยกกระชับผิว ทั้งผิวหน้าและผิวตัวให้กลับมาเต่งตึง ยกกระชับขึ้นได้โดย
ไม่ต้องผ่าตัด และสามารถช่วยลดไขมันได้บางส่วน ซึ่งเหมาะกับคนที่อยากดูแลตัวเอง
แต่ไม่อยากเจ็บตัว ไม่อยากผ่าตัด ไม่อยากเสียเวลาพักฟื้น - หลังทำไม่มีรอยแผลหลังการรักษา มีแต่อาการช้ำหรือแดง แต่ก็แค่เพียงเล็กน้อย
เมื่อผ่านไปประมาณ 2-3 วัน อาการเหล่านี้ก็จะหายได้เองตามปกติ - เห็นผลลัพธ์การเปลี่ยนแปลงได้ทันทีหลังทำ 10-30% และจะเห็นผลลัพธ์ที่ชัดเจน
เมื่อผ่านไป 2 เดือน คงผลลัพธ์หลังการรักษาได้นาน 6-12 เดือน (ขึ้นอยู่กับการดูแลผิวหลังทำ
ไฮฟู่ และสภาพผิวของแต่ละคน) - ถึงแม้จะเป็นหัตถการที่ยิงคลื่นพลังงานเสียงความเข้มข้นสูงเข้าสู่ชั้นผิว
แต่มีความปลอดภัยต่อผิวสูง ไม่ทำร้ายผิวชั้นนอก ไม่ทำให้ผิวชั้นนอกแสบ มีรอยแดง
หรือรอยไหม้ - คลื่นพลังงานที่ปล่อยออกไปไม่เป็นอันตรายต่อสายตา จึงสามารถทำไฮฟู่ ที่บริเวณใต้ตาและรอบๆ ดวงตาได้
ผลลัพธ์หลังจากทำ
HIFU
ช่วยแก้ปัญหาใบหน้าหย่อนคล้อย คิ้วตก หนังตาตก และมีส่วนช่วยให้ร่องแก้มตื้นขึ้นได้
แต่ผลลัพธ์ไม่ชัดมากสำหรับผู้ที่มีปัญหาร่องแก้มลึก แพทย์แนะนำให้ฟิลเลอร์ร่องแก้มจะเห็นผลลัพธ์ชัดกว่า
แต่ผลลัพธ์ไม่ชัดมากสำหรับผู้ที่มีปัญหาร่องแก้มลึก แพทย์แนะนำให้ฟิลเลอร์ร่องแก้มจะเห็นผลลัพธ์ชัดกว่า
- กรอบหน้าชัดขึ้น จึงช่วยปรับหน้าเรียวขึ้น
- สามารถลดรอยตีนกา ริ้วรอยหน้าผาก และเหนียงใต้คาง
- ถ้าร่องใต้ตาลึกมากๆ หมอแนะนำให้ฉีด
ฟิลเลอร์ จะเป็นการแก้ปัญหาได้ตรงจุด
เห็นผลชัดเจนทันที - ไม่เป็นการรักษาซ้ำซ้อน และเสียเงินโดยเปล่าประโยชน์
- ช่วยเรื่องฝ้า กระ จุดด่างดำ และกระตุ้น
คอลลาเจนใต้ผิวหนัง ทำให้หน้าใสขึ้น
วิธีการดูแลตัวเองก่อนการทำ
HIFU
- ควรนอนพักผ่อนให้เพียงพอ
- งดสูบบุหรี่หรือดื่มแอลกอฮอล์ในช่วงก่อนและหลังทำ
- ควรรับประทานอาหารให้ครบ 5 หมู่
เพราะจะช่วยในการสร้างคอลลาเจนให้กับเซลล์ใหม่ให้เป็นไปได้ด้วยดี ยิ่งขึ้น
วิธีการดูแลตัวเองหลังการทำ
HIFU
- ควรทาครีมกันแดดที่มีค่า SPF สูงเป็นประจำ เพื่อป้องกันรังสี UVA และ UVB จากแสงแดด
- หลีกเลี่ยงการออกไปเจอแสงแดด หรือทำกิจกรรมกลางแจ้ง ประมาณ 1-2 อาทิตย์
- ทาโลชั่นบำรุงผิวอย่างสม่ำเสมอ เพื่อเพิ่มความชุ่มชื้นให้กับผิวหากมีอาการ เมื่อย ตึงบริเวณผิวที่ทำ
สามารถทานยาแก้ปวดได้ - ควรรับประทานอาหารให้ครบ 5 หมู่
และดื่มน้ำให้เพียงพอ อย่างน้อย 8-10 แก้ว - ควรทานอาหารเสริมคอลลาเจน วิตามิน โดยปรึกษากับแพทย์ที่ดูแลการทำไฮฟู่
- ควรงดการกด ขัด ถู สครับผิวบริเวณ
ใบหน้าแรงๆ หรือสตรีมซาวด์น่า
นวดหน้าด้วยความร้อนหลังทำ 2 สัปดาห์ - ควรงดสูบบุหรี่และดื่มแอลกอฮอล์ เนื่องจากเป็นการทำลายการสร้างคอลลาเจนใหม่
HIFU
เจ็บไหม ?
เนื่องจากไฮฟู่ เป็นการยิ่งคลื่นพลังงานลงไปให้สะสมที่ชั้นผิวจนเกิดความร้อน
ดังนั้นระหว่างการทำ ไฮฟู่จะรู้สึกเจ็บ แต่ยังอยู่ในระดับที่ทนได้
ดังนั้นระหว่างการทำ ไฮฟู่จะรู้สึกเจ็บ แต่ยังอยู่ในระดับที่ทนได้
การทำไฮฟู่ ที่ได้ประสิทธิภาพ ขณะทำต้องมี
ความรู้สึกปวดๆ ตึงๆ ซึ่งคนไข้จะรู้สึกอุ่นๆ
บริเวณใต้ผิว จะแสดงถึงการยิงคลื่นเสียงเข้าไปถึง
ชั้นเยื่อหุ้มกล้ามเนื้อ (SMAS)
ก็จะให้ผลลัพธ์ในการยกกระชับผิวได้ดีและเต็มประสิทธิภาพ การทำไฮฟู่ ยิ่งเจ็บ ยิ่งสวย
ถ้าไม่เจ็บคือไม่ได้ผล
ดังนั้นอยากสวยต้องทนได้
ความรู้สึกปวดๆ ตึงๆ ซึ่งคนไข้จะรู้สึกอุ่นๆ
บริเวณใต้ผิว จะแสดงถึงการยิงคลื่นเสียงเข้าไปถึง
ชั้นเยื่อหุ้มกล้ามเนื้อ (SMAS)
ก็จะให้ผลลัพธ์ในการยกกระชับผิวได้ดีและเต็มประสิทธิภาพ การทำไฮฟู่ ยิ่งเจ็บ ยิ่งสวย
ถ้าไม่เจ็บคือไม่ได้ผล
ดังนั้นอยากสวยต้องทนได้
HIFU
สามารถทำร่วมกับหัตถการอื่นได้ไหม?
การยกกระชับใบหน้า ในแต่ละครั้งเราไม่จำเป็นต้องเลือกทำได้อย่างใดอย่างหนึ่งหรือทำแค่
ไฮฟู่
อย่างเดียว
เราสามารถทำ ไฮฟู่ ร่วมกับ
หัตถการอื่นๆ ได้ เช่น ฟิลเลอร์ ฉีดเมโสแฟต
ร้อยไหม เพื่อให้ได้ผลลัพธ์ที่ชัดเจนและไวยิ่งขึ้น
ไฮฟู่
อย่างเดียว
เราสามารถทำ ไฮฟู่ ร่วมกับ
หัตถการอื่นๆ ได้ เช่น ฟิลเลอร์ ฉีดเมโสแฟต
ร้อยไหม เพื่อให้ได้ผลลัพธ์ที่ชัดเจนและไวยิ่งขึ้น
HIFU
ดีกว่าการรักษาริ้วรอยด้วย
Botox และ Filler จริงหรือไม่?
แม้ว่าหัตถการอย่างโบท็อกซ์หรือฟิลเลอร์จะสามารถช่วยให้เห็นผลลัพธ์ในการกระชับผิว
ลดริ้วรอยได้เหมือนกับการยกกระชับด้วยไฮฟู่ แต่หัตถการ
ทั้งสองอย่างจะเปรียบเสมือนการแก้ไขแบบชั่วคราว
เนื่องจากคงสภาพได้ในระยะเวลาหนึ่งเท่านั้น
ซึ่งมีความแตกต่างจากไฮฟู่ ที่เป็นการแก้ตรงจุด
ไปยังโครงสร้างชั้นผิว
มีการปรับเส้นใย
คอลลาเจนให้แข็งแรงขึ้นได้ถึงชั้นผิว SMAS และชั้นไขมัน
นอกจากการยกกระชับ
ความหย่อนคล้อยแล้วยังช่วยลดไขมันส่วนเกินได้บางส่วนอีกด้วย
ผลลัพธ์หลังทำมีความเป็นธรรมชาติกว่า และยังสามารถ
ทำซ้ำได้บ่อยกว่า
ลดริ้วรอยได้เหมือนกับการยกกระชับด้วยไฮฟู่ แต่หัตถการ
ทั้งสองอย่างจะเปรียบเสมือนการแก้ไขแบบชั่วคราว
เนื่องจากคงสภาพได้ในระยะเวลาหนึ่งเท่านั้น
ซึ่งมีความแตกต่างจากไฮฟู่ ที่เป็นการแก้ตรงจุด
ไปยังโครงสร้างชั้นผิว
มีการปรับเส้นใย
คอลลาเจนให้แข็งแรงขึ้นได้ถึงชั้นผิว SMAS และชั้นไขมัน
นอกจากการยกกระชับ
ความหย่อนคล้อยแล้วยังช่วยลดไขมันส่วนเกินได้บางส่วนอีกด้วย
ผลลัพธ์หลังทำมีความเป็นธรรมชาติกว่า และยังสามารถ
ทำซ้ำได้บ่อยกว่า
ข้อแตกต่างระหว่าง
HIFU / ULTHERA / THERMAGE
Hifu Ulthera และ Thermage
ซึ่งต่างเป็นเครื่องยกกระชับผิวที่ส่งคลื่นพลังงานลงไปเพื่อช่วยให้เกิดการหดตัวของผิวได้คล้ายกัน
แต่มีความต่างตรงที่ความลึกในการส่งพลังงาน ลักษณะรูปแบบของคลื่นพลังงาน
และความร้อน โดยมีจุดที่ต่างกันดังนี้
ซึ่งต่างเป็นเครื่องยกกระชับผิวที่ส่งคลื่นพลังงานลงไปเพื่อช่วยให้เกิดการหดตัวของผิวได้คล้ายกัน
แต่มีความต่างตรงที่ความลึกในการส่งพลังงาน ลักษณะรูปแบบของคลื่นพลังงาน
และความร้อน โดยมีจุดที่ต่างกันดังนี้
HIFU
ไฮฟู่มีพลังงานความร้อนระหว่าง 60 – 70 องศา
จะมีการปล่อยพลังงานคลื่นอัลตร้าซาวด์ (High Intensity Focus Ultrasound Macrofocus)
ในลักษณะของจุดไข่ปลาขนาด 0.5 – 1 mm ทำให้เกิดการหดของผิวตามทิศทางของเส้นจึงสามารถ
กำหนดตามแนวที่ต้องการได้ และสามารถลงลึกได้ตั้งแต่ชั้นหนังกำพร้า หนังแท้ ชั้นไขมัน และชั้น SMAS
ให้ผลลัพธ์นาน 5 – 6 เดือน Ulthera
Ulthera จะส่งพลังงานคลื่นเสียงอัลตร้าซาวด์ (High Intensity Focus Ultrasound)
แบบจุดเช่นกัน แต่มีขนาดที่กว้าง 1 mm ด้วย
ความร้อน 65 – 70 องศา สามารถลงลึกได้ถึงชั้น SMAS
จึงเหมาะกับผู้ที่ต้องการยกกระชับผิวจากความหย่อนคล้อย ตีนกาและริ้วรอย
ให้ผลลัพธ์นาน 1 ปี Thermage
Thermage จะต่างออกไปจาก Hifu และ Ulthera
เพราะเป็นการใช้พลังงานคลื่นวิทยุ Monopolar RF ที่ให้ความร้อน 45 – 47 องศา
และส่งพลังงานออกไปในแนวกว้าง
ซึ่งจะครอบคลุมพื้นที่มากกว่า จึงค่อนข้างเจ็บกว่า
จะเห็นผลได้ดีในคนที่สามารถทนความเจ็บได้ในระดับสูง ให้ผลลัพธ์ผิวที่อ่อนเยาว์
หัตถการนี้เหมาะกับคนที่มีอายุมาก
ให้ผลลัพธ์นาน 1 – 2
ไฮฟู่มีพลังงานความร้อนระหว่าง 60 – 70 องศา
จะมีการปล่อยพลังงานคลื่นอัลตร้าซาวด์ (High Intensity Focus Ultrasound Macrofocus)
ในลักษณะของจุดไข่ปลาขนาด 0.5 – 1 mm ทำให้เกิดการหดของผิวตามทิศทางของเส้นจึงสามารถ
กำหนดตามแนวที่ต้องการได้ และสามารถลงลึกได้ตั้งแต่ชั้นหนังกำพร้า หนังแท้ ชั้นไขมัน และชั้น SMAS
ให้ผลลัพธ์นาน 5 – 6 เดือน Ulthera
Ulthera จะส่งพลังงานคลื่นเสียงอัลตร้าซาวด์ (High Intensity Focus Ultrasound)
แบบจุดเช่นกัน แต่มีขนาดที่กว้าง 1 mm ด้วย
ความร้อน 65 – 70 องศา สามารถลงลึกได้ถึงชั้น SMAS
จึงเหมาะกับผู้ที่ต้องการยกกระชับผิวจากความหย่อนคล้อย ตีนกาและริ้วรอย
ให้ผลลัพธ์นาน 1 ปี Thermage
Thermage จะต่างออกไปจาก Hifu และ Ulthera
เพราะเป็นการใช้พลังงานคลื่นวิทยุ Monopolar RF ที่ให้ความร้อน 45 – 47 องศา
และส่งพลังงานออกไปในแนวกว้าง
ซึ่งจะครอบคลุมพื้นที่มากกว่า จึงค่อนข้างเจ็บกว่า
จะเห็นผลได้ดีในคนที่สามารถทนความเจ็บได้ในระดับสูง ให้ผลลัพธ์ผิวที่อ่อนเยาว์
หัตถการนี้เหมาะกับคนที่มีอายุมาก
ให้ผลลัพธ์นาน 1 – 2
สรุป
HIFU เป็นการใช้พลังงานคลื่นอัลตร้าซาวด์
ความถี่สูง ยิงเข้าไปทำให้ผิวหนังในชั้น SMAS
หดตัว
พร้อมกับกระตุ้นให้สร้างคอลลาเจนและสร้างเนื้อเยื่อใหม่ใต้ผิวหนัง
ส่งผลให้ผิวหน้าดูยกกระชับและอ่อนเยาว์ลง
โดยสามารถทำควบคู่กับหัตถการอื่นได้เพื่อผลลัพธ์ที่ดีมากยิ่งขึ้น
ความถี่สูง ยิงเข้าไปทำให้ผิวหนังในชั้น SMAS
หดตัว
พร้อมกับกระตุ้นให้สร้างคอลลาเจนและสร้างเนื้อเยื่อใหม่ใต้ผิวหนัง
ส่งผลให้ผิวหน้าดูยกกระชับและอ่อนเยาว์ลง
โดยสามารถทำควบคู่กับหัตถการอื่นได้เพื่อผลลัพธ์ที่ดีมากยิ่งขึ้น
ที่ Classy Clinic ให้บริการโดยแพทย์ที่มีประสบการณ์เฉพาะด้านการดูแลผิวพรรณ
การเติมเต็มใบหน้า การปรับรูปหน้า ด้วยไฮฟู่ ทางคลินิกใช้เครื่องมาตรฐาน VNC
technology ได้รับ อย. (FDA Thailand) และ ISO13485
อย่างถูกต้อง พิถิพิถันทุกขั้นตอนในการออกแบบใบหน้า
ที่เหมาะสมและแตกต่างกันในไปแต่ละบุคคล
เพราะเราเชื่อว่า ทุกคนมีความงามในแบบฉบับ
ของตัวเอง ไม่ซ้ำใคร เน้นการปรับรูปหน้า
ดูแลผิวพรรณ ให้ดูดีขึ้น เป็นธรรมชาติ
อย่างมีคลาส
เพื่อสร้างความมั่นใจอย่างแท้จริง
ให้กับผู้รับบริการทุกคน
การเติมเต็มใบหน้า การปรับรูปหน้า ด้วยไฮฟู่ ทางคลินิกใช้เครื่องมาตรฐาน VNC
technology ได้รับ อย. (FDA Thailand) และ ISO13485
อย่างถูกต้อง พิถิพิถันทุกขั้นตอนในการออกแบบใบหน้า
ที่เหมาะสมและแตกต่างกันในไปแต่ละบุคคล
เพราะเราเชื่อว่า ทุกคนมีความงามในแบบฉบับ
ของตัวเอง ไม่ซ้ำใคร เน้นการปรับรูปหน้า
ดูแลผิวพรรณ ให้ดูดีขึ้น เป็นธรรมชาติ
อย่างมีคลาส
เพื่อสร้างความมั่นใจอย่างแท้จริง
ให้กับผู้รับบริการทุกคน
สนใจดูโปรโมชั่น คลิกเลย!
SCHEDULE
A CONSULTATION
SESSION
ปรึกษาฟรี ไม่มีค่าใช้จ่าย
Give yourself some daily rewards because loving and caring for yourself doesn’t need to wait.
เพราะการให้รางวัลกับตัวเอง ไม่ควรต้องรอ
RELATED STORIES
Review from social media FB/IG
Related article
IG STORY
