Volite filler Juvederm - เติมเต็มผิวฉ่ำวาว

Key benefits:

Volite ผิวหน้าเรียบเนียน ผิวอิ่มฟู

ปรึกษา
แพทย์ฟรี

ระยะเวลา(นาที):
30 - 45

ระยะพักฟื้น:
ไม่ต้องพักฟื้น

Juvederm Volite

บูสต์ผิวใส ฉ่ำวาว เผยคุณภาพผิว

เป็นฟิลเลอร์ Skin Booster อีกหนึ่งชนิดจากอเมริกา
ที่มีคุณสมบัติในการเพิ่มความชุ่มชื้นให้กับผิวจากภายใน
มันเหมาะสำหรับผู้ที่ต้องการผิวกระจกและผิวใสที่อิ่มน้ำ

เป็นเทรนด์ที่กำลังมาแรงในปัจจุบัน หลังจากที่ฉีดเข้าไป
ในผิวหนังแล้ว
ผู้ใช้จะเห็นผลการเปลี่ยนแปลงทันที
และไม่ต้องเผชิญกับแผลหรือต้องพักฟื้นให้กับผิว

Juvederm Volite

คืออะไร ?

“Juvederm Volite” เป็นหนึ่งในยี่ห้อของ
ฟิลเลอร์ที่ผลิตในอเมริกา
ซึ่งเป็นสารเติมเต็มประเภท Hyaluronic Acid (HA)
ซึ่งได้รับการรับรองจาก US FDA
เป็นที่เรียบร้อยแล้ว คุณสมบัติเด่นของ จูเวเดิร์ม โวไลท์

คือมีเนื้อฟิลเลอร์ละเอียดที่สามารถฉีดเพื่อเพิ่มความชุ่มชื้นให้กับผิว

ได้โดยไม่เกิดบวมหรือการเป็นก้อน มันมีความเรียบเนียน
เป็นธรรมชาติ
นอกจากนี้ยังเหมาะสำหรับใช้ฉีดเพื่อแก้ปัญหาผิวใต้ตาชั้นตื้นได้อย่างดีด้วย

ฟิลเลอร์ จูเวเดิร์ม โวไลท์ เป็นหนึ่งในรุ่นของฟิลเลอร์ยี่ห้อ Juvederm จากประเทศอเมริกา
ซึ่งผลิตโดยบริษัท Allergan ซึ่งเป็นบริษัทเดียวกับที่ผลิต Botox
และได้รับการยอมรับอย่างกว้างขวางจากแพทย์ทั่วโลก
และได้รับการรับรองจากสำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา (FDA) อเมริกา ให้เป็นที่ปลอดภัยในการใช้งานแล้ว

Juvederm Volite เป็น HA งานผิวตัวแรกและตัวเดียวที่ได้รับการอนุมัติจาก FDA
และเป็น Hyaluronic Acid (HA) ที่ถูกออกแบบมาเพื่อฉีดที่ผิวหนังชั้นกลาง มีลักษณะเป็นเจล

ที่ไม่เป็นก้อน และสามารถ
เพิ่มความชุ่มชื้นให้แก่ผิวได้โดยตรง ช่วยให้ผิวชุ่มชื้นฉ่ำวาว
ริ้วรอยชั้นตื้นลดลง
รูขุมขนกระชับ เรียบเนียนขึ้น ซึ่งสามารถฉีดได้ทุกบริเวณของ

และใช้ได้ทั้งกับบริเวณลำคอและมือ เหมาะกับทุกเพศทุกวัย

Juvederm Volite

ทำงานอย่างไร?

“จูเวเดิร์ม โวไลท์” ถูกสร้างขึ้นเพื่อแก้ปัญหาผิวแห้งกร้าน ผิวเหี่ยว ที่ดูแก่กว่าวัย
และผู้ที่มีเวลาน้อยในการดูแลตัวเอง
มีคุณสมบัติ Dual EFFECT
โดยใช้สาร Hyaluronic acid (HA) ที่ผลิตขึ้นจาก Vycross Technology
ซึ่งเป็น
ลิขสิทธิ์เฉพาะของ Juvederm เพื่อให้ได้เป็นฟิลเลอร์เนื้อบางเบาที่สามารถฉีดเข้าไปยัง
ชั้นหนังแท้ (dermis)
ได้อย่างเรียบเนียน ธรรมชาติ และไม่เป็นก้อน 

โวไลท์ ทำงานได้หลายระดับในผิวหนัง
ด้วยความละเอียดของสารทำให้ผิวหน้า
ไม่มีผลกระทบหลังจากฉีด และผิวจะเริ่มรู้สึกเรียบเนียน สดใสขึ้นเรื่อย ๆ

เทคโนโลยีการผลิต

Juvederm Volite

“จูเวเดิร์ม โวไลท์” ถูกผลิตโดยบริษัท Allergan

ที่เป็นผู้ผลิตเดียวกับ Botox Allergan และเป็นบริษัทระดับโลก

ฟิลเลอร์ Juvederm ได้รับความนิยมจาก
แพทย์ทั่วโลกในการใช้ปรับรูปหน้า
มีเทคโนโลยีผลิตที่ใช้ 2 ประเภท ได้แก่
Hylacross และ Vycross Technology
สำหรับ จูเวเดิร์ม โวไลท์ ใช้ Vycross Technology
ทำให้มีโมเลกุลยึดเกาะที่หนาแน่น และไม่บวมมากหลังจากฉีด มีความเรียบเนียน และเป็นธรรมชาติ
ส่งผลต่อผิวหน้าอย่างสว่าง
และชุ่มชื้น เหมาะกับการใช้เป็น Skin Booster มากที่สุด
Hylacross Technology
เป็นเทคโนโลยีที่มีคุณสมบัติในการอุ้มน้ำได้ดี

เป็นฟิลเลอร์เอกซ์ซีฟจาก Juvederm


ที่ให้ผลลัพธ์การฉีดที่สมบูรณ์แบบ มีความยืดหยุ่นสูงและทนทาน
น่าสนใจสำหรับการปรับปรุงร่องแก้มและกล้ามเนื้อใบหน้า อย่างไรก็ตาม
สำหรับบริเวณที่ต้องการความยืดหยุ่นมากขึ้น แนะนำให้ใช้ฟิลเลอร์ Juvederm Ultra Plus ที่มีเทคโนโลยี Hylacross
Vycross Technology
เป็นเทคโนโลยีที่ล่าสุดที่พัฒนาขึ้นเพื่อมอบคุณสมบัติในการยกกระชับอย่างดี
โดยมีโมเลกุลที่เกาะกันอย่างหนาแน่น
และมีการบวมน้ำหรืออุ้มน้ำน้อยกว่า
HA อื่น ทำให้ผลลัพธ์หลังฉีดเนียน
ไม่เกิดก้อน
และดูเป็นธรรมชาติ
และยังมีความอยู่ได้นาน เหมาะสำหรับฉีดเพื่อเสริมความอวบของ
ริมฝีปากหรือเติมเต็มร่องแก้ม สำหรับฟิลเลอร์ Juvederm ในกลุ่ม Vycross ได้แก่รุ่น Volite, Voluma, Volift, Volbella และ Volux

Juvederm Volite

ของแท้ ดูอย่างไร ?

 juvederm

มีกี่รุ่น?

ฟิลเลอร์ Juvederm ของอเมริกา มีรวมทั้งหมด 6 รุ่น

ได้แก่ Ultra Plus, Voluma, Volbella, Volift และ Volux
โดยแต่ละรุ่นจะมีเนื้อเจลที่มีลักษณะแตกต่างกัน
เช่น เนื้อแน่น, เนื้อนิ่ม, และเนื้อละเอียด เพื่อให้หมอสามารถเลือกใช้ให้เหมาะสมกับปัญหาผิวและ
ความกังวลของแต่ละคนได้
Juvederm Ultra Plus
เป็นฟิลเลอร์ที่มีเนื้อนิ่มและสามารถเก็บกักน้ำได้
อย่างดี หลังฉีดแล้วจะมีการเติมเต็มอย่างมาก ทำให้เผยอวัยวะที่สวยงามขึ้น
มีความทนทานต่อการขยับ นอกจากนี้เหมาะสำหรับการฉีดเข้าไปแก้ปัญหาร่องลึก โดยเฉพาะในพื้นที่ เช่น ปาก หรือร่องแก้ม
ซึ่งเป็นทางเลือกที่ดีสำหรับผู้ที่
มีปัญหาร่องลึกจากการเปลี่ยนแปลงตามวัย เช่น ร่องแก้ม หรือ
ร่องน้ำหมาก และจะช่วยเพิ่มความสวยงามให้กับลักษณะหน้าที่คุณต้องการได้อย่างเหมาะสม
ผลลัพธ์หลังจากฉีดจะคงทนไว้ได้เป็นเวลาประมาณ 12 เดือน
Juvederm Voluma
เป็นฟิลเลอร์ที่มีเนื้อแข็งและมีความฟูมาตรฐาน
มีความยืดหยุ่นสูง
เหมาะสำหรับการใช้ใต้ตา
ในร่องคาง หรือการขมับ
และการเติมในร่องแก้ม ซึ่งเป็นตัวเลือกที่ดีสำหรับผู้ที่ต้องการปรับปรุง
พื้นฐานใต้ตา แก้ไขร่องแก้ม และยังสามารถใช้ในการ
เติมคางและขมับ
หรือบริเวณอื่น ๆ ตามที่แพทย์แนะนำได้
และผลลัพธ์หลังฉีดยัง

ผลลัพธ์หลังจากฉีดจะคงทนไว้ได้เป็นเวลาประมาณ 18 เดือน

Juvederm Volift
เป็นฟิลเลอร์ที่มีเนื้อนิ่มและละเอียดมาก เหมาะสำหรับผู้ที่มีผิวบาง ส่วนใหญ่นิยมฉีดในบริเวณปาก
แก้มตอบ มุมปาก ร่องแก้ม
และระหว่างคิ้วโดย Juvederm Volift มีลักษณะที่
นุ่มนวล และละเอียดมากกว่ารุ่น Ultra Plus ดังนั้นเหมาะสำหรับ
ผู้ที่มีผิวบาง โดยเฉพาะบริเวณใต้ตา
ร่องแก้ม หรือร่องมุมปาก
ที่ไม่ลึกมาก ซึ่งสามารถเพิ่มความเต็มเต็มและ
รายละเอียด
ให้กับลักษณะหน้าได้อย่างสมบูรณ์
ผลลัพธ์หลังจากฉีดจะคงทนไว้ได้เป็นเวลาประมาณ 12 เดือน
Juvederm VolBELLA
เป็นฟิลเลอร์ที่มีเนื้อนิ่มและมีความละเอียดมากที่สุด
มีโมเลกุลขนาดเล็กที่ช่วยเพิ่ม
ความเรียบเนียนให้กับบริเวณหน้าผาก ผลลัพธ์หลังการฉีดจะดูเป็นธรรมชาติ

ไม่มีความผิดปกติหรือก้อนคั้น
ผลลัพธ์สามารถคงความสมบูรณ์ไว้ได้นานประมาณ 12 เดือน
Juvederm Volux
เป็นฟิลเลอร์เนื้อแข็ง มีโมเลกุลขนาดใหญ่
มีความยืดหยุ่นสูง
ปั้นทรงสวย คงรูปได้ดี

ฟิลเลอร์ Juvederm Volux
ซึ่งเป็นรุ่นที่มีการพัฒนาออกมาล่าสุด เป็นฟิลเลอร์เนื้อแข็ง
มีโมเลกุลขนาดใหญ่ จึงมีความยืดหยุ่นสูง ปั้นทรงสวย
และคงรูปได้ดีที่สุด
จึงเหมาะสำหรับฉีดคาง ใต้ตา ขมับ
และร่องแก้มชั้นลึก

ผลลัพธ์หลังจากฉีดจะคงทนไว้ได้เป็นเวลาประมาณ 18-24 เดือน

Juvederm Volite

แตกต่างจากรุ่นอื่นอย่างไร ?

จุดเด่นของ จูเวเดิร์ม โวไลท์ ที่แตกต่างจากรุ่นอื่น คือ

เนื้อฟิลเลอร์ที่มีการอุ้มน้ำน้อย
ซึ่งทำให้การฉีดไม่เกิดการบวมขึ้น และผิวหน้าดูเรียบเนียน ธรรมชาติมากขึ้น
นอกจากนี้
ความจริงคือไม่ใช่ว่าฟิลเลอร์ จูเวเดิร์ม รุ่นอื่น ๆ จะเกิดการบวมหลังการฉีดทุกครั้ง
เนื่องจากเนื้อฟิลเลอร์มักถูกผลิตเพื่อแก้ปัญหาในบริเวณที่ต่างกัน ในบางส่วนเช่น ร่องแก้ม หรือ
แก้มตอบ
จำเป็นต้องใช้ฟิลเลอร์ที่มีความยืดหยุ่นสูงและฉีดแล้วอุ้มน้ำได้ดี เพื่อให้ได้ผลลัพธ์ที่สวยงามและยังคงคงทนไว้ได้นาน
เช่นกัน การใช้ Hylacross Technology
จะเป็นทางเลือกที่ดีในบางกรณี โดยเฉพาะในบริเวณที่มีการขยับบ่อย ๆ

ซึ่งต้องการความยืดหยุ่นสูง
ในผิวหน้า และการรักษาผลลัพธ์ให้คงทนไว้ช่วงเวลานานๆ

Juvederm Volite

 ฉีดตำแหน่งไหนได้บ้าง ?

ตัวฟิลเลอร์จูเวเดิร์ม โวไลท์ เป็น Skin Booster
ที่มีความสามารถในการรักษาปัญหาผิวหลากหลาย
โดยเน้นการปรับสมดุลและสภาพผิวให้ดูอ่อนเยาว์และชุ่มชื้นมากขึ้น

โดยการรักษาหลักๆ เน้นที่การปรับปรุงระดับชั้นผิวหนังส่วนตื้น
บริเวณที่ฉีดฟิลเลอร์สามารถครอบคลุมได้แก่ผิวหน้า

ด้วยความสมบูรณ์และความชุ่มชื้นที่เพิ่มขึ้น
  • เพื่อเพิ่มความชุ่มชื้นและสูงอนุ่มในผิวหน้าทั้งบริเวณใบหน้า
และรอบดวงตา
    เพื่อช่วยให้ผิวดูอ่อนเยาว์ขึ้นและลดริ้วรอยจากสิว
  • ใช้เพื่อเติมความชุ่มชื้นและป้องกันการแตกของริมฝีปาก

    รวมทั้งช่วยลดเลือนรอย
    แก้มตอบ และริ้วรอยรอบปาก
  • การใช้งานบริเวณคอมีประโยชน์ในการเสริมความชุ่มชื้น
    แก้ไขริ้วรอยและรอยคล้ำ
    บริเวณคอ พร้อมทั้งช่วยให้ผิวดูอ่อนเยาว์และมีความยืดหยุ่นมากขึ้น
  • ใช้ในบริเวณหลังมือเพื่อลดริ้วรอยและเสริมความชุ่มชื้น


    ให้ผิวดูอ่อนเยาว์และมีความปลอดภัย
  • สำหรับบริเวณเนินอกเพื่อเพิ่มความชุ่มชื้น และลดริ้วรอยให้ผิว ดูสมบูรณ์และมีสุขภาพดี โดยจำนวนที่เหมาะสมของฟิลเลอร์ แต่ละพื้นที่คือบริเวณใบหน้า 2 มิลลิลิตร,
    บริเวณคอ 2 มิลลิลิตร และบริเวณหลังมือ 1 มิลลิลิตร

juvederm volite

 เหมาะกับใคร?

  • ผิวแห้งและขุยต้องการเพิ่มความชุ่มชื้น
    เพื่อให้ผิวดูฉ่ำวาว
  • ผิวหยาบกร้านมีริ้วรอยและรูขุมขนใหญ่ทั่วหน้า
  • ผิวมีรอยย่นและความหย่อนคล้อยบนใบหน้า ไม่กระชับ
  • ผู้ที่ต้องการรักษาริ้วรอยและ
    ความหย่อนคล้อยบริเวณคอ
    และหลังมือ
  • ผู้ที่ต้องการเพิ่มความกระจ่างใสให้ผิวดูสดใส
    โดยไม่ต้องแต่งหน้า
  • ผู้ที่มีผื่นแพ้ประเภท Atopic Dermatitis
    ทำให้ผิวแห้งและคัน
  • ผู้ที่ต้องการความชุ่มชื้นเสมอ
    เพราะทำงานนอกบ้านในสภาพอากาศแห้ง

การดูแลหลังฉีด

Juvederm Volite

การดื่มน้ำอย่างเพียงพอ 1.5/2 ลิตรต่อวัน

ช่วยให้ผิวชุ่มชื้นมากขึ้น
หลีกเลี่ยงการถูกแสงแดดโดยตรง

แต่หากต้องออกนอก ต้องทาครีมกันแดดทุกครั้ง
ห้ามการบีบ นวด แกะ หรือเกา
บริเวณที่ฉีดฟิลเลอร์
โดยเฉพาะ
ในช่วง 2-3 วันแรก
หลังจากการทำ
งดกิจกรรมการออกกำลังกายหนัก ๆ

หรือกิจกรรมที่
เพิ่มการไหลเวียนเลือดมาก
ในช่วง 48 ชั่วโมงแรก
งดการใช้เลเซอร์ร้อนที่ลง
ผิวชั้นลึก


อย่างน้อย 1 เดือน
หลังการทำ
หลีกเลี่ยงการดื่มแอลกอฮอล์
หรือสูบบุหรี่

Juvederm Volite

 ต่างกันอย่างไร?

Skin Booster มีหลากหลายรูปแบบโดยทั่วไปเป็นการเติมอาหารผิวเพื่อเร่งการฟื้นฟู


และการซ่อมแซมของเซลล์ผิว ระยะเวลาในการฟื้นฟูขึ้นอยู่กับสภาพผิวของแต่ละบุคคล

ต้องทำเป็นระยะเพื่อปรับคุณภาพผิว โดยปกติแล้วการฉีด Skin Booster

อาจใช้การรักษาประมาณ 3 ครั้ง
และอยู่ได้ประมาณ 2-3 เดือน
ต้องมาย้ำในทุก 6 เดือน (ตามโปรแกรมที่กำหนด)
แต่ในขณะเดียวกัน จูเวเดิร์ม โวไลท์
มีความเข้มข้นสูงกว่า Skin Booster
ปกติที่เป็นของเหลวใสแบบน้ำ
ทำให้เห็นผลทันทีและสามารถปล่อย
ความชุ่มชื่นออกมาได้ตลอด เรียบเนียน

และอยู่ได้นานถึง 9 เดือน ทำให้สะดวกและประหยัดเวลา
และค่าใช้จ่ายมากขึ้นในระยะยาว

Q&A

เกี่ยวกับ

Juvederm Volite

จูเวเดิร์ม โวไลท์ ต้องฉีดกี่ CC ?
ปริมาณที่ต้องฉีดขึ้นอยู่กับปัญหาผิวของคนไข้
ถ้ามีปัญหาลึก
อาจจะต้องใช้ฟิลเลอร์ปริมาณมากขึ้น แต่โดยทั่วไปการฉีด จูเวเดิร์ม โวไลท์
ใช้ปริมาณ 1-2 CC ก็เห็นผลการเปลี่ยนแปลงได้แล้ว หากคนไข้ไม่แน่ใจ
ก็สามารถทำการฉีดเป็นระยะๆ เพื่อดูผลลัพธ์ก่อนได้
ไม่จำเป็นต้องฉีดอัดทีเดียวในปริมาณเยอะๆ
จูเวเดิร์ม โวไลท์ กี่วันเห็นผล ต้องพักหน้าไหม ?
หลังฉีด จูเวเดิร์ม โวไลท์ skin booster
คนไข้สามารถเห็นผลการเปลี่ยนแปลงของผิว
ได้ทันทีหลังการฉีด
เนื้อฟิลเลอร์จะเบลนด์เข้ากับผิว 100%
ในระยะเวลา 2 สัปดาห์

ถ้าต้องแต่งหน้าให้เว้นบริเวณรอยเข็ม 1 คืน หลังจากนั้นสามารถแต่งหน้าได้ตามปกติ
จูเวเดิร์ม โวไลท์ อยู่ได้นานแค่ไหน ?
ผลของ จูเวเดิร์ม โวไลท์ สามารถคงอยู่ได้นาน
8-12 เดือน
โดยการดูแลตนเอง
เป็นส่วนสำคัญในการรักษาผลลัพธ์นี้
หากปฏิบัติตามคำแนะนำจากแพทย์อย่างเคร่งครัด
และหลีกเลี่ยงพฤติกรรมที่อาจทำร้ายผิว
เช่น การพักผ่อนไม่เพียงพอ
หรือถูกแดดจัด เป็นต้น จะช่วยให้ผลลัพธ์มีความยาวนานมากขึ้น

ปลุกผิวใสให้ชุ่มชื้น ฉ่ำวาว ฉีด

Juvederm Volite

AT CLASSY CLINIC

การฉีดฟิลเลอร์โปรแกรม Juvederm Voluma ที่ CLASSY CLINIC

เริ่มต้นด้วยการประเมินสภาพปัญหาผิวและกำหนดจุดที่ต้องการแก้ไขอย่างชัดเจน

พร้อมกับคำนวณปริมาณยาที่เหมาะสมเพื่อให้ได้ผลลัพธ์ที่ดีที่สุด
ในการฉีดจำเป็นต้องใช้ทักษะและประสบการณ์ในการปล่อยยาให้ตรงตำแหน่งของชั้นผิวระดับ
ที่เป็นจุดสำคัญของการทำให้โมเลกุลของ Juvederm Volite
กระจายตัวผ่านการทำงานของ AQP3 transporter อย่างมีประสิทธิภาพที่สุด
ซึ่งจะช่วยให้เกิดปรากฏการณ์
เพิ่มน้ำสู่ผิวได้อย่างยาวนาน นอกจากนี้
การฉีดในชั้นดังกล่าวยังสามารถ
เพิ่มผลการยกกระชับโครงสร้างผิวได้ดีที่สุด
และป้องกันไม่ให้เกิดผลข้างเคียง
เช่น ก้อนหรือลำฟิลเลอร์ผิดปกติหลังฉีดได้อย่างมีประสิทธิภาพ

สนใจดูโปรโมชั่น คลิกเลย!

SCHEDULE
A CONSULTATION
SESSION

ปรึกษาฟรี ไม่มีค่าใช้จ่าย

Give yourself some daily rewards because loving and caring for yourself doesn’t need to wait.

เพราะการให้รางวัลกับตัวเอง ไม่ควรต้องรอ

RELATED STORIES

Review from social media FB/IG

Related article

IG STORY