
ปากสวยเป๊ะ เสกได้ by หมอจูน ปั้นปากด้วย ฟิลเลอร์ปาก
ฟิลเลอร์ปาก เป็นกระบวนการทางเวชศาสตร์ที่ใช้สารเติมผิวเพื่อปรับรูปทรงและลดริ้วรอยรอบปาก ให้กลับมามีความยืดหยุ่นและชุ่มชื้นเช่นเดิม เป็นหัตถกรรมที่มีประโยชน์ในการปรับปรุงลักษณะของริมฝีปากให้สวยเป๊ะ เสริมสร้างความมั่นใจ สร้างโหงวเฮ้งปัง
นอกจากนี้ ยังช่วยให้ปากดูมีเสน่ห์และสวยงามมากยิ่งขึ้นด้วยการปรับเปลี่ยนทรงปากให้เข้ากับโครงสร้างใบหน้า การฉีดปาก ยังสามารถช่วยลดการตกขอบปากและทำให้ขอบปากดูชัดเจนมากยิ่งขึ้น ทำให้ผิวรอบปากที่มีปัญหาเช่นแห้ง แตก หรือลอกเป็นขุยดูนุ่มชุ่มชื้นขึ้นอย่างเห็นได้ชัดเจน
ฟิลเลอร์ปาก คืออะไร ?
การฉีดฟิลเลอร์ปาก (Lip Filler) เป็นกระบวนการที่ใช้สารเติมผิวเข้าที่ริมฝีปาก เพื่อปรับปรุงลักษณะรูปร่างของปากให้ดูเต่งตึง และเรียบเนียนตามความต้องการของบุคคล การใช้ฟิลเลอร์เพื่อฉีดที่ปากหรือใบหน้าจะนำสารไปฉีดใต้ผิวหนังเพื่อเพิ่มความชุ่มชื้นและช่วยเสริมความมั่นใจให้กับผู้ที่รับบริการด้วยการเพิ่มประสิทธิภาพในการปรับเปลี่ยนรูปทรงของริมฝีปากให้มีลักษณะที่มีคุณภาพและสวยงามยิ่งขึ้น

ก่อนฉีดปาก

หลังรับบริการฉีดปาก
ทำไมถึงต้องฉีดฟิลเลอร์ที่ปาก ?
เมื่อคนเราอายุมากขึ้น ร่างกายจะผลิตสารบางตัวได้ลดลง เช่น คอลลาเจน กรดไฮยาลูรอนิค หรือ ไฟเบอร์ต่าง ๆ ทำให้ผิวหนังหย่อนคล้อย โดยเฉพาะบริเวณรอบปากที่มีแนวโน้มที่แสดงอาการแก่และไม่เต่งตึงเท่าเดิม เริ่มมีเส้นริ้วรอยและร่องลึก ปากก็อาจเป็นแห้งง่ายและขาดความชุ่มชื้น ทำให้ดูอ่อนแอและอ่อนเพียงพอขึ้น
การฉีดฟิลเลอร์ปากจึงเป็นทางเลือกที่น่าสนใจเมื่อต้องการแก้ไขปัญหาดังกล่าว โดยฟิลเลอร์ที่มีส่วนประกอบเป็นกรดไฮยาลูรอนิคสามารถช่วยเพิ่มความเต่งตึงให้กับริมฝีปาก ลดริ้วรอย และร่องลึก ช่วยให้ขอบปากดูชัดเจนขึ้น และเพิ่มความชุ่มชื้นให้ผิวหนังด้านบริเวณนี้
นอกจากการแก้ไขปัญหาการยับของปากแล้ว ฟิลเลอร์ปากยังสามารถช่วยปรับทรงปากให้สวยงามมากขึ้น ด้วยการเพิ่มปริมาณของฟิลเลอร์ในบางจุดเพื่อสร้างรูปทรงที่เราต้องการ เช่น การฉีดปากให้อวบอิ่ม การทำปากกระจับ หรือการฉีดยกมุมปาก เพื่อให้ปากดูสวยงามและมีเสน่ห์มากขึ้น
สารที่ใช้ฉีดสำหรับฉีดปากมีอะไรบ้าง ?
- Temporary Dermal Fillers เป็นฟิลเลอร์ชนิดชั่วคราวที่ใช้สารที่สามารถถูกสลายในร่างกายภายในช่วงเวลาประมาณ 6 – 18 เดือนหลังการฉีด หรือสามารถใช้สารเสริมเพิ่มเพื่อช่วยในกระบวนการสลายฟิลเลอร์ได้ เป็นวิธีการที่ปลอดภัยมากที่สุดสำหรับการปรับปรุงรูปร่างของริมฝีปาก แม้จะมีความสามารถในการย่อยตัวไป แต่ต้องระมัดระวังในการฉีดเพื่อป้องกันการเกิดภาวะแพ้หรือปฏิกิริยาข้ามกันได้ สารที่ใช้ฉีดเป็น Temporary Dermal Fillers รวมถึงกรดไฮยาลูรอนิค (Hyaluronic acid), คอลลาเจน (Collagen), และแคลเซียมไฮดรอกซีอะพาไทต์ (Calcium Hydroxylapatite) เป็นต้น
- Semi-Permanent Dermal Fillers เป็นประเภทของฟิลเลอร์ที่มีความคงทนกว่าฟิลเลอร์ชนิดชั่วคราว โดยมีระยะเวลาในการสลายออกไปเองประมาณ 2 ปีขึ้นไปเหมือนกับฟิลเลอร์ชนิดชั่วคราว มีเนื้อแข็งมากขึ้นและเหมาะสำหรับการเติมร่องที่ลึกมากขึ้นและต้องการรักษารูปร่างไว้ในระยะยาว เมื่อเปรียบเทียบกับฟิลเลอร์ชนิดชั่วคราว ฟิลเลอร์กึ่งถาวรมีความเสี่ยงที่มากขึ้น สารที่ใช้ฉีด เช่น โพลีแลคติกแอซิด (Poly Lactic Acid) และโพลีอัลคิลลิไมด์ (Polyalkylimide)
- Permanent Dermal Fillers คือฟิลเลอร์ชนิดถาวรที่มีความแข็งแรงและคงทนมากที่สุด มักถูกใช้เพื่อเติมร่องลึกและจะคงอยู่ในผิวหน้าไปตลอดอายุการใช้งาน ซึ่งไม่สามารถสลายออกได้ ผลลัพธ์หลังการฉีดจะอยู่อย่างถาวร ฟิลเลอร์ชนิดนี้มีข้อเสียที่สารที่ฉีดเข้าไปจะไม่ปรับตัวตามการเปลี่ยนแปลงของผิวหน้าตามอายุ ซึ่งอาจทำให้เกิดก้อนเนื้อและไม่สามารถสลายได้ เช่น โพลีเมทิลเมทาคริลิค (Polymethylmethacrylate หรือ PMMA)
ฟิลเลอร์แบบไหนที่นิยมมากที่สุด

การฉีดฟิลเลอร์ปาก มักใช้ฟิลเลอร์ชนิดชั่วคราว โดยกรดไฮยาลูรอนิค (Hyaluronic acid หรือ HA) เป็นสารที่นิยมมากที่สุดเนื่องจากร่องบริเวณริบฝีปากไม่ลึกมากเกินไปเพื่อใช้ฟิลเลอร์ชนิดกึ่งถาวรหรือถาวร นอกจากนี้ ในปัจจุบันไม่ควรใช้ฟิลเลอร์จากสารอื่นเนื่องจากความเสี่ยงที่อาจเกิดขึ้นและผลลัพธ์ที่ไม่ดีเท่ากับกรดไฮยาลูรอนิค ฟิลเลอร์ที่มาจากกรดไฮยาลูรอนิคมีเนื้อนิ่มแต่คงตัว ทำให้ดูเป็นธรรมชาติและสามารถฉีดสลายได้ง่ายโดยไม่เสี่ยงต่ออันตราย
ฉีดปากช่วยในเรื่องอะไรบ้าง?

ทรงปากสวยงามมากขึ้น
ช่วยให้ปากมีรูปร่างที่สมส่วนและสวยงามมากยิ่งขึ้น โดยการแก้ไขทรงปากให้มีสมดุล หรือปรับเปลี่ยนทรงปากเดิม เช่น ปากกระจับ ปากสายฝอ หรือยกมุมของปากเพื่อให้ได้รูปทรงเหมาะสมตามความต้องการของแต่ละบุคคล
ปรับขนาดริมฝีปาก
ช่วยเพิ่มความหนาของริมฝีปากให้มีปากหนาขึ้นในกรณีที่ริมฝีปากเดิมมีความบางหรือลดลงตามอายุ
ทำปากทรงกระจับ
ช่วยให้ได้รูปปากทรงกระจับโดยไม่ต้องผ่าตัด ซึ่งเป็นกระบวนการที่ไม่เสี่ยงต่อการเกิดพังผืดหรือรอยแผลเป็น และมีระยะเวลาหายขาดน้อยกว่าการผ่าตัดปาก
ขอบปากชัดขึ้น ช่วยให้ขอบปากดูชัดเจนและเต่งตึงมากยิ่งขึ้น
ริมฝีปากเต่งตึง เรียบเนียน อิ่มน้ำ ช่วยให้ริมฝีปากตึงเต็ม เนียนเรียบ และชุ่มชื้นได้เพิ่มขึ้น
การฉีดปาก เหมาะกับใครบ้าง ?
- ผู้ที่ต้องการปรับรูปทรงของปากให้มีความสวยงาม มากยิ่งขึ้น เป็นหนึ่งในกลุ่มที่เหมาะสมที่สุดสำหรับการใช้บริการฉีดฟิลเลอร์ปาก
- บุคคลที่มีความไม่สมดุลขนาดของปาก โดยมีอาการปากบางและปากใหญ่ไม่สมกัน ก็เป็นกลุ่มที่มีความจำเป็นที่จะใช้งานฟิลเลอร์ปาก
- ผู้ที่มีปากเล็กหรือบางเกินไปอาจพบว่าการใช้ฟิลเลอร์ปากเป็นวิธีที่ดีในการปรับปรุงความเต็มใจและความมั่นใจในรูปร่างของปาก
- บุคคลที่ปากบนและปากล่างมีความหนาบางไม่สมดุลกัน การใช้ฟิลเลอร์ปากช่วยให้ปากดูมีความสมดุลและสวยงามมากยิ่งขึ้น
- ผู้ที่ปากมีลักษณะเป็นร่อง ทำให้ดูไม่สวยงามและอาจแสดงถึงสุขภาพปากที่ไม่ดี การใช้ฟิลเลอร์ปากอาจช่วยปรับปรุงลักษณะนี้และให้ปากดูเนียนนุ่มมากขึ้น
- ผู้ที่มีปากแห้ง ร่อง หรือมีการลอกเป็นขุยตลอดเวลาอาจ พบว่าการใช้ฟิลเลอร์ปากช่วยเพิ่มความชุ่มชื้นและนุ่มนวลให้กับปากได้
- บุคคลที่ต้องการเสริมโหงวเฮ้งและปรับรูปทรงของปากให้เข้ากับแบบแผนโหงวเฮ้งมากขึ้น ฟิลเลอร์ปากเป็นทางเลือกที่เหมาะสม
ข้อควรระวังหลังฉีดฟิลเลอร์ปาก ห้ามทานอะไรบ้าง
- อาหารร้อนและอาหารที่ต้องทานหน้าเตา ได้แก่ อาหารที่เสิร์ฟร้อน ควรงดในช่วงหลังการทำการฉีดฟิลเลอร์ปากเพื่อป้องกันความร้อนที่อาจทำให้ฟิลเลอร์เริ่มละลายหรือเปลี่ยนรูปได้
- เครื่องดื่มแอลกอฮอล์ทุกชนิดควรหลีกเลี่ยงในช่วงหลังการทำการฉีดฟิลเลอร์ปากเนื่องจากอาจทำให้เลือดไหลมากขึ้นและเสี่ยงติดเชื้อได้
- ของหมักดอง อาหารรสจัด ทั้งเปรี้ยว เค็ม และหวานควรงดในช่วงสัปดาห์แรกหลังการทำการฉีดเพื่อป้องกันการกระตุ้นและอักเสบของปาก
ฟิลเลอร์ปาก ดูแลอย่างไรหลังการทำ
- หลังทำการฉีดฟิลเลอร์ปากทันที ควรหลีกเลี่ยงการทานอาหารเพื่อป้องกันการกัดริมฝีปากโดยไม่ได้ตั้งใจ และควรประคบน้ำแข็งเพื่อช่วยบรรเทาอาการบวมและแดง
- ช่วง 2 – 3 วันหลังฉีดฟิลเลอร์ปาก ควรหลีกเลี่ยงการจับริมฝีปากโดยไม่จำเป็น เพื่อป้องกันการเคลื่อนไหวของฟิลเลอร์และอาจเกิดผลเสีย เชิงรูปลักษณ์ หรือทรงปากที่เปลี่ยนไป
- ช่วง 4 – 5 วันหลังฉีดฟิลเลอร์ปาก ควรดื่มน้ำสะอาดมากๆ เพื่อช่วยทำให้ฟิลเลอร์อุ้มน้ำมากขึ้น
- ช่วง 1 อาทิตย์แรกหลังฉีดฟิลเลอร์ปาก ควรหลีกเลี่ยงการใช้ยา อาหารเสริม หรือสมุนไพรที่อาจมีผลต่อการแข็งตัวของเลือด และไม่ควรออกกำลังกายหนักเกินไป เนื่องจากเลือดจะสูบฉีดมากกว่าปกติ
- ช่วง 1 เดือนหลังฉีดฟิลเลอร์ปาก ควรหลีกเลี่ยงการทำเลเซอร์ทุกชนิด
- ไม่ควรอยู่ในที่ร้อน เช่น ห้องซาวน่า ร้านอาหารที่มีเตาอบ หรือทานอาหารร้อน เพราะความร้อนอาจทำให้ฟิลเลอร์เซ็ตตัวได้ไม่ดีและมีโอกาสสลายได้ไวมากขึ้น
ข้อดีของการทำฟิลเลอร์ปาก









สามารถปรับเปลี่ยนทรงได้ตลอดเวลา
การทำปากกระจับจะให้ผลลัพธ์ที่ถาวรและยาวนาน แต่หากไม่พอใจกับผลลัพธ์สามารถแก้ไขได้ยาก ในขณะที่ฟิลเลอร์ปากสามารถปรับเปลี่ยนทรงได้ง่าย โดยสามารถฉีดยาสลายฟิลเลอร์หรือเพิ่มเติมได้ตามต้องการตลอดเวลา
สามารถแก้ไขปากที่บางให้หนาและเป็นทรงขึ้นได้
ช่วยบำรุงริมฝีปากให้อวบอิ่มและชุ่มชื่น
เห็นความเปลี่ยนแปลงทันทีและไม่ต้องพักฟื้น
หลังฉีดเสร็จทันทีจะเห็นทรงชัดประมาณ 80% และฟิลเลอร์ปากที่ฉีดไปจะฟูขึ้นเล็กน้อยหลังจากนั้น โดยจะเข้าที่ 100% ในระยะเวลาประมาณ 7 วัน

อันตรายจากฉีดฟิลเลอร์ปลอม
คำถามที่พบบ่อยเกี่ยวกับการฉีดปาก
ฉีดปากเจ็บไหม ?
การฉีดปาก ไม่เจ็บ หรืออาจจะเจ็บเล็กน้อยเท่านั้น เนื่องจากแพทย์ที่ดูแลจะใช้ยาชาก่อนทำการฉีดและบางยี่ห้อของฟิลเลอร์ก็มีสารชาผสมอยู่ เพื่อลดความรู้สึกเจ็บ ในขณะฉีดอาจรู้สึกตึงๆ หรือเครียดเล็กน้อยเท่านั้น หลังจากยาชาหมดฤทธิ์ อาจมีความเจ็บตึงและคันเล็กน้อย แต่ส่วนใหญ่จะหายไปภายใน 2 วัน
ฉีดฟิลเลอร์ปากบวมกี่วัน?
ฟิลเลอร์ปากใช้กี่ CC ?
ฟิลเลอร์ปากทั่วไปใช้ปริมาณประมาณ 1 ซีซี (CC) เพื่อเพิ่มปริมาณและปรับรูปทรงของปากให้สวยงาม สำหรับผู้ที่ต้องการผลลัพธ์ที่มากขึ้นหรือปรับทรงปากให้มีวอลลุ่มมากขึ้น อาจจะต้องใช้ปริมาณ 2 ซีซี (CC) ขึ้นอยู่กับความต้องการและคำแนะนำของแพทย์ผู้ทำการฉีดฟิลเลอร์ปากด้วย

ทำไมต้องทำฟิลเลอร์ปาก ที่ Classy Clinic
ที่ Classy ใช้แพทย์เฉพาะทางที่มีประสบการณ์เฉพาะด้าน ร่วมประเมินและออกแบบรูปปากให้กับคนไข้เพื่อวางแผนการรักษาอย่างตรงไปตรงมาและเหมาะสมกับใบหน้าของแต่ละบุคคล มีเทคนิคลงเข็มที่แม่นยำ และแก้ไขปัญหาได้อย่างตรงจุด คลินิกใช้ฟิลเลอร์แท้ทุกกล่อง ผ่านการรับรองจาก อย. ตรวจสอบได้ พร้อมแกะกล่องให้คนไข้ดูก่อนฉีด Filler ปากทุกเคส รับประกันมาตรฐานความปลอดภัย การันตีฝีมือแพทย์ด้วยใบรับรองและรางวัลมากมาย พร้อมทั้งรีวิวความประทับใจจากคนไข้จริง